อยากเข้าถึงพันธมิตรนับพัน พร้อมระบบจ่ายค่าคอมตรงเวลา และการสนับสนุนที่ช่วยให้ธุรกิจ Affiliate ของคุณเติบโตใช่มั้ย? เครือข่ายพันธมิตรอาจเป็นคำตอบ โดยเฉพาะถ้าคุณเพิ่งเริ่มต้นในสาย Affiliate Marketing
ไม่ว่าคุณจะเป็นครีเอเตอร์ บล็อกเกอร์ หรืออินฟลูเอนเซอร์ การเข้าร่วมเครือข่ายการตลาดแบบพันธมิตรที่เหมาะสมจะช่วยลดเวลาที่ต้องใช้ในการตามหาดีล และเพิ่มเวลาที่คุณสามารถใช้ไปกับสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด คือสร้างคอนเทนต์และเปลี่ยนคนดูให้เป็นลูกค้า
คู่มือนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจว่าเครือข่าย Affiliate คืออะไร แตกต่างจากโปรแกรมแบบเดี่ยวอย่างไร และมีประโยชน์อะไรบ้างสำหรับทั้งแบรนด์และผู้เผยแพร่คอนเทนต์
เครือข่ายพันธมิตร คืออะไร?
เครือข่ายพันธมิตร (Affiliate Network) คือระบบที่เชื่อมต่อระหว่างแบรนด์กับผู้เผยแพร่คอนเทนต์หรือนักการตลาดแบบ Affiliate (เช่น บล็อกเกอร์ ครีเอเตอร์บนโซเชียลมีเดีย พอดแคสต์ และช่องทางอื่นๆ) โดยเครือข่ายจะทำหน้าที่เป็นตัวกลาง ช่วยให้แบรนด์และพาร์ตเนอร์ที่ต้องการร่วมโปรโมตสินค้าเจอกันได้ง่ายขึ้น
แบรนด์สามารถใช้เครือข่ายพันธมิตรในการคัดเลือกพาร์ตเนอร์ เพื่อโปรโมตสินค้าและขยายช่องทางการขายใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แบรนด์มักใช้เครือข่ายพันธมิตรเมื่อ
- ต้องการเพิ่มการสนับสนุนด้านการขาย
- ต้องการใช้งบประมาณการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ
- ต้องการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่
นักการตลาดสายคอนเทนต์ หรือครีเอเตอร์ อาจใช้เครือข่ายการตลาดแบบพันธมิตรเพื่อ
- เข้าถึงโปรแกรมมากมายโดยไม่ต้องสมัครทีละรายการ
- ทำให้การจ่ายค่าคอมมิชชันเป็นเรื่องง่าย
- ขยายความร่วมมือได้เร็วขึ้น
🌟 กำลังเพิ่งเริ่มทำ Affiliate Marketing ใช่มั้ย? คู่มือสำหรับมือใหม่นี้จะช่วยให้คุณหาโปรแกรม Affiliate ได้ตรงใจ สร้างลิงก์ Affiliate ได้เอง และเริ่มต้นสร้างรายได้ในฐานะพาร์ตเนอร์
เครือข่ายพันธมิตรคืออะไร และทำยังไง?
แพลตฟอร์มพันธมิตร มีไว้เพื่อช่วยให้นักการตลาดและแบรนด์จัดการกิจกรรมด้าน Affiliate ได้อย่างเป็นระบบ
ในฐานะพาร์ตเนอร์ Affiliate เพียงแค่สมัครเข้าใช้งานเครือข่าย ก็สามารถเข้าถึงโปรแกรมที่เปิดให้ร่วมได้ทันที บางเครือข่ายอาจมีเกณฑ์การรับสมัคร เช่น AvantLink และ ShareASale ซึ่งกำหนดให้ผู้สมัครต้องมีเว็บไซต์หรือช่องทางโซเชียลมีเดียที่ใช้งานอยู่จริง และมีการตรวจสอบคอนเทนต์โดยทีมงานก่อนอนุมัติ

เมื่อเทียบกับโปรแกรม Affiliate ที่แต่ละแบรนด์สร้างและจัดการเอง เครือข่ายพันธมิตรช่วยให้นักการตลาดและครีเอเตอร์สามารถติดต่อกับหลายแบรนด์ได้จากที่เดียว
10 เครือข่ายพันธมิตรที่ดีที่สุดสำหรับนักการตลาด
- Shopify Collabs
- AWIN
- CJ Affiliate
- ClickBank
- FlexOffers
- Avangate Affiliate Network
- Rakuten Advertising
- Impact
- affiliaXe
- GiddyUp
เมื่อ Affiliate Marketing เติบโตขึ้น ทางเลือกก็มีมากขึ้นตามไปด้วย และนี่คือเครือข่ายพันธมิตรชั้นนำที่ควรพิจารณาในปี 2025 โดยพิจารณาจากความง่ายในการใช้งานเครื่องมือการตลาด อัตราค่าคอมมิชชัน การสนับสนุน และขนาดของเครือข่าย
1. Shopify Collabs

Shopify Collabs เป็นเครือข่าย Affiliate ที่ช่วยให้ครีเอเตอร์และอินฟลูเอนเซอร์เชื่อมต่อกับแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จบน Shopify ครีเอเตอร์ที่มีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียอย่างน้อย 1,000 คน สามารถใช้เครือข่ายนี้เพื่อค้นหาแบรนด์ สร้างลิงก์ affiliate รับค่าคอมมิชชันอัตโนมัติ และรับของขวัญจากแบรนด์
- ครีเอเตอร์สามารถเข้าถึงแบรนด์โปรดได้ทันที สร้างลิงก์ affiliate ได้เองโดยไม่ต้องรออนุมัติ และรับค่าคอมมิชชันทันทีหลังเริ่มต้นใช้งาน
- แบรนด์สามารถสร้างโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์กับพาร์ตเนอร์ เช่น แบบสำรวจทำความรู้จักหรือกิจกรรมแนะนำแบรนด์ เพื่อเสริมความสัมพันธ์และเข้าถึงครีเอเตอร์จำนวนมาก
รายละเอียดเครือข่ายพันธมิตร
- การจ่ายเงิน: โอนอัตโนมัติหลังครบระยะถือยอด 30 วัน
- ช่องทางการจ่าย: PayPal หรือโอนผ่านบัญชีธนาคาร
-
การสนับสนุนพาร์ตเนอร์: มีทีมสนับสนุน
2. AWIN

ShareASale ซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารของ AWIN มีแบรนด์มากกว่า 25,000 รายอยู่ในเครือข่าย ตามที่นักการตลาด Affiliate อย่าง Robin Young จากเว็บไซต์ Fitness Savvy ระบุว่า
“หน้าเว็บของที่นี่ใช้งานง่ายมาก การสร้างฟีดสินค้าและลิงก์แบบกำหนดเองก็ทำได้สะดวกมาก พวกเขามีแบรนด์โฆษณาชั้นนำจากทั่วโลก และจากที่ผมลองใช้ พบว่าเหมาะมากกับตลาดในสหราชอาณาจักร ที่สำคัญคือฝ่ายบริการลูกค้าก็ดีมากๆ ด้วย”
เช่นเดียวกับ ShareASale คุณสามารถสมัครเข้าร่วมเครือข่ายได้ทั้งผ่านเว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดีย แต่จะมีค่าธรรมเนียมแรกเข้าเล็กน้อยประมาณ 5 ดอลลาร์ ซึ่งจะได้รับคืนเมื่อคุณทำรายได้ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำของการจ่ายครั้งแรก
รายละเอียดเครือข่าย Affiliate
- การจ่ายเงิน: เดือนละ 2 ครั้ง ทุกวันที่ 1 และ 15 โดยเป็นค่าคอมมิชชันของเดือนก่อนหน้า (มียอดขั้นต่ำในการจ่ายประมาณ 700 บาท)
- ช่องทางการจ่าย: โอนผ่าน BACS, โอนเงินระหว่างประเทศ หรือระบบ ACH
- การสนับสนุนพาร์ตเนอร์: มีทีมดูแลและสนับสนุน
3. CJ Affiliate

CJ Affiliate เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มพันธมิตรขนาดใหญ่ ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1998 และมีแบรนด์มากกว่า 3,800 รายทั่วโลกบนแพลตฟอร์ม Affiliate Marketing ของตนเอง
การสร้างบัญชีเพื่อเข้าเป็นสมาชิกแบบใช้งานได้เต็มรูปแบบ จะต้องกรอกข้อมูลติดต่อและเพิ่ม “ช่องทางโปรโมต” เช่น เว็บไซต์หรือบัญชีโซเชียลมีเดียของคุณ
CJ Affiliate ยังมี Developer Portal แบบเปิดสำหรับเข้าถึง API (Application Programming Interface) ซึ่งรวมทรัพยากรและเครื่องมือสำหรับการใช้งานเชิงเทคนิค เช่น การปรับแต่งข้อเสนอให้ตรงกับลูกค้า การเข้าถึงข้อมูลบัตรเครดิต และการค้นหาลิงก์ตามคีย์เวิร์ดหรือหมวดหมู่แบบเจาะจง
รายละเอียดเครือข่ายพันธมิตร
- การจ่ายเงิน: ค่าคอมมิชชันจะจ่ายโดยทั่วไปในวันที่ 20 หรือ 28 ของเดือน ขึ้นอยู่กับสกุลเงิน
- ช่องทางการจ่าย: โอนเข้าบัญชีธนาคารโดยตรง หรือผ่าน Payoneer
- การสนับสนุนพาร์ตเนอร์: มีทีมดูแลและให้คำแนะนำ
4. ClickBank

ClickBank เป็นหนึ่งในเครือข่าย Affiliate Marketing ที่เก่าแก่และเชื่อถือได้มากที่สุด โดยจ่ายค่าคอมมิชชันไปแล้วมากกว่า 200,000 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 1999
การสมัครและยืนยันตัวตนกับ ClickBank ไม่จำเป็นต้องมีเว็บไซต์หรือบัญชีโซเชียลมีเดีย เพียงแค่กรอกข้อมูลติดต่อ ก็สามารถเริ่มต้นเลือกสินค้าจาก Marketplace และสร้างลิงก์ Affiliate ได้ทันที
ClickBank มีสินค้าให้เลือกหลากหลาย ทั้งแบบดิจิทัลและสินค้าจริง รวมมากกว่า 4,000 รายการที่ผ่านการคัดกรองแล้ว ทำให้มีหมวดหมู่สินค้าให้เลือกโปรโมตได้หลากหลาย อีกทั้งยังมีเครื่องมือติดตามยอดขาย ศูนย์ข้อมูลสำหรับพาร์ตเนอร์ และโอกาสในการเพิ่มรายได้จากการทำ Upsell
รายละเอียดเครือข่าย Affiliate
- การจ่ายเงิน: รายสัปดาห์หรือรายปักษ์
- ช่องทางการจ่าย: เช็ค, โอนเข้าบัญชีธนาคาร, โอนเงินระหว่างประเทศ หรือ Payoneer
- การสนับสนุนพาร์ตเนอร์: มีทีมดูแลและให้คำแนะนำ
5. FlexOffers

FlexOffers FlexOffers มีผู้ลงโฆษณามากกว่า 10,000 ราย รวมถึงแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Samsung, Sephora และ Wayfair โดยเป็นระบบพันธมิตรขนาดใหญ่ที่ยังเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มและเครือข่ายพันธมิตรอื่น เช่น AWIN, ClickBank และ ShareASale
เช่นเดียวกับแพลตฟอร์มพันธมิตรอื่นๆ FlexOffers รองรับเว็บไซต์บล็อก เช่น WordPress, Wix, Blogger และ BlogSpot เป็นแหล่งทราฟฟิก และให้ระยะเวลาคุกกี้ 30 วัน
นอกจากจะสามารถโปรโมตแบรนด์ขนาดใหญ่ได้แล้ว FlexOffers ยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการรวมแบรนด์ขนาดเล็กเข้าในกลยุทธ์การตลาด เพื่อเปิดโอกาสสร้างรายได้จากความร่วมมือที่หลากหลาย
รายละเอียดเครือข่ายพันธมิตร
- การจ่ายเงิน: ปกติจ่ายตามรอบ 60 วันหลังปิดยอด (net 60) หากต้องการรับเงินเร็วขึ้นมีตัวเลือกจ่ายล่วงหน้า แต่จะมีค่าธรรมเนียม
- ช่องทางการจ่าย: โอนผ่านบัญชีธนาคาร, โอนเงินระหว่างประเทศ, ACH, เช็ค หรือ PayPal
- การสนับสนุนพาร์ตเนอร์: มีทีมดูแลและให้คำแนะนำ
6. Avangate Affiliate Network

Avangate Affiliate Network ก่อตั้งขึ้นในปี 2006 และเป็นเครือข่ายพันธมิตรที่มีพาร์ตเนอร์มากกว่า 1,200 ราย หากคุณอยู่ในสายโปรโมตซอฟต์แวร์หรือสินค้าดิจิทัล นี่คือเครือข่ายที่ช่วยสร้างรายได้แบบพาสซีฟจากการแนะนำสินค้าได้เป็นอย่างดี โดย Avangate กำหนดให้ผู้สมัครต้องมีเว็บไซต์
สิ่งที่ทำให้ Avangate โดดเด่นกว่าเครือข่ายอื่นคือระบบตะกร้าสินค้าที่ตั้งค่าให้รองรับแต่ละภูมิภาคได้ (Geo-targeted Shopping Cart) หมายความว่า คุณสามารถ “ลิงก์ลึก” ไปยังหน้าชำระเงินที่ปรับตามพื้นที่ของลูกค้าได้โดยตรง
รายละเอียดเครือข่าย Affiliate
- การจ่ายเงิน: รายเดือน จ่ายทุก 20 วันหลังสิ้นเดือนที่มีค่าคอมมิชชัน
- ช่องทางการจ่าย: โอนเงินระหว่างประเทศ, เช็ค, PayPal หรือบัตร Avangate Mastercard (ร่วมกับ Payoneer) โดยต้องมียอดขั้นต่ำประมาณ 3,500 บาท
- การสนับสนุนพาร์ตเนอร์: มีทีมดูแลและให้คำแนะนำ
7. Rakuten Advertising

Rakuten Advertising มีผู้ลงโฆษณา พาร์ตเนอร์ และเอเจนซี่ด้านการตลาดมากกว่า 25,000 ราย สำหรับแบรนด์ที่ต้องการสร้างโปรแกรม Affiliate Network กับค่ายนี้ มีเครื่องมือที่ล้ำสมัยอย่าง Affiliate Conversion Journey ซึ่งช่วยให้เห็นเส้นทางของผู้ใช้งานตั้งแต่ต้นทางจนถึงการแปลงยอดได้อย่างโปร่งใส ส่วนฝั่งพาร์ตเนอร์สามารถใช้เครื่องมืออย่าง Audience Engine ที่ช่วยปรับแต่งประสบการณ์ให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย เพื่อเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น
แบรนด์ที่เข้าร่วม เช่น
- Hilton
- Ashley Furniture
- JanSport
- ASICS
- AllSaints
รายละเอียดเครือข่ายพันธมิตร
- การจ่ายเงิน: ตามรอบ 60 วัน
- ช่องทางการจ่าย: โอนเข้าบัญชีธนาคาร เช็ค หรือ PayPal
- การสนับสนุนพาร์ตเนอร์: มีทีมดูแลและให้คำแนะนำ
8. Impact
Impact ได้รับการโหวตให้เป็นเครือข่ายพันธมิตรแบบ cost-per-sale ที่ดีที่สุดในอเมริกาเหนือประจำปี 2024 โดยเปิดโอกาสให้พาร์ตเนอร์ร่วมงานกับแบรนด์ชั้นนำมากมาย เช่น Adidas, Fabletics, L’Oréal และ American Express รวมถึงยังมีแบรนด์เทคโนโลยีอย่าง Shopify เข้าร่วมในเครือข่ายด้วย
เครือข่ายนี้ได้รับรีวิวมากกว่า 800 รายการบน G2 ซึ่งหลายเสียงชื่นชมในด้านการพัฒนาความสัมพันธ์กับพาร์ตเนอร์ จุดเด่นอีกอย่างของ Impact คือมี Mobile App Partner Marketplace ที่ช่วยให้พาร์ตเนอร์ปรับแต่งประสิทธิภาพการทำงานกับทราฟฟิกบนมือถือ พร้อมเครื่องมืออัตโนมัติที่ช่วยจัดการแคมเปญได้สะดวกยิ่งขึ้น
รายละเอียดเครือข่ายพันธมิตร
- การจ่ายเงิน: ปรับวันหรือยอดขั้นต่ำได้เอง หรือเลือกให้จ่ายวันที่ 1 หรือ 15 ของเดือน
- ช่องทางการจ่าย: โอนเข้าบัญชีธนาคาร BACS หรือ PayPal
- การสนับสนุนพาร์ตเนอร์: มีทีมดูแลและให้คำแนะนำ
9. affiliaXe

เครือข่ายการตลาดแบบพันธมิตร affiliaXe เป็นเครือข่ายระดับโลกที่มอบเครื่องมือให้พาร์ตเนอร์เพื่อช่วยเพิ่มอันดับ และวิเคราะห์ทราฟฟิกได้อย่างแม่นยำ แดชบอร์ดของระบบสามารถติดตามการคลิก การแปลงยอด รายการใบแจ้งหนี้ และอื่นๆ ได้ครบถ้วน
เมื่อได้รับการอนุมัติ พาร์ตเนอร์จะมีผู้จัดการดูแลเฉพาะ ช่วยแนะนำโปรแกรมที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายของตนเอง ในฝั่งแบรนด์จะได้รับการสนับสนุนด้วยระบบป้องกันการโกง และเครื่องมือตรวจสอบคุณภาพของแคมเปญ เพื่อให้การทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์ที่มีประสบการณ์เป็นไปอย่างราบรื่น
ระบบพันธมิตร affiliaXe รองรับรูปแบบการสร้างรายได้จากทราฟฟิกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแบบจ่ายต่อการดู (Pay Per View), จ่ายต่อคลิก (Pay Per Click), โปรโมตผ่านโซเชียลมีเดีย หรือ Email Marketing / Feeds
รายละเอียดเครือข่ายพันธมิตร
- การจ่ายเงิน: รายปักษ์ ทุกวันที่ 15 และสิ้นเดือน มียอดขั้นต่ำประมาณ 3,500 บาท
- ช่องทางการจ่าย: PayPal, Payoneer, ACH, เช็ค หรือโอนผ่านธนาคารด้วยระบบ Tipalti
- การสนับสนุนพาร์ตเนอร์: มีทีมดูแลเฉพาะทาง
10. GiddyUp

GiddyUp คือแพลตฟอร์มเครือข่ายพันธมิตรที่สร้างขึ้นเพื่อช่วยให้คุณสร้างรายได้ออนไลน์ ไม่ว่าจะมาจากเว็บไซต์ส่วนตัวหรือช่องทางโซเชียลมีเดีย ตั้งแต่ปี 2013 GiddyUp ได้จ่ายค่าคอมมิชชันให้พาร์ตเนอร์ไปแล้วมากกว่า 7,000 ล้านบาท
สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้น GiddyUp มีเครื่องมือทันสมัยและข้อมูลแบบเรียลไทม์ที่ช่วยเพิ่มรายได้ พร้อมมีผู้จัดการดูแลพาร์ตเนอร์ คอยให้คำแนะนำเกี่ยวกับการตลาดดิจิทัลอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าคุณจะดึงทราฟฟิกมาจากช่องทางไหน ก็สามารถเข้าถึงเครื่องมือครีเอทีฟ เช่น วิดีโอ ภาพ และข้อความแคมเปญได้ทันที
GiddyUp ได้เปิดตัวสินค้าประเภท DTC (Direct-to-Consumer) ไปแล้วมากกว่า 150 รายการในหลากหลายหมวดหมู่ ดังนั้นหากคุณสนใจโปรโมตสินค้าจริง นี่อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะ
รายละเอียด Affiliate Network
- การจ่ายเงิน: ติดต่อ GiddyUp เพื่อขอรายละเอียด
- ช่องทางการจ่าย: ACH, เช็ค หรือโอนผ่านธนาคารต่างประเทศ
- การสนับสนุนพาร์ตเนอร์: มีทีมดูแลและให้คำแนะนำ
เริ่มสร้างรายได้กับเครือข่ายพันธมิตร
เครือข่ายพันธมิตรช่วยให้คุณเริ่มต้นธุรกิจ Affiliate ได้ง่ายขึ้น และขยายให้เติบโตได้อย่างมีระบบ ประหยัดเวลาในการสมัครโปรแกรมต่างๆ จัดการค่าคอมมิชชันได้สะดวกขึ้น และเข้าถึงเครื่องมือกับทีมสนับสนุนที่ช่วยผลักดันรายได้ของคุณให้เติบโต
ลองสำรวจเครือข่ายที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายและสไตล์คอนเทนต์ของคุณ และอย่ากลัวที่จะทดลองหลายเจ้าจนกว่าจะเจอเครือข่ายที่ใช่ ยิ่งจับคู่กับผู้ชมได้ตรงแค่ไหน โอกาสสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมอก็ยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเครือข่ายพันธมิตร
เครือข่ายพันธมิตรไหนเหมาะกับมือใหม่ที่สุด?
Shopify Collabs มีเครื่องมือด้านรายงาน การจัดการ และวิเคราะห์ที่ครอบคลุม เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นในสาย Affiliate Marketing แพลตฟอร์มขนาดใหญ่อย่าง ShareASale และ Impact ก็สมัครง่าย และมีโปรแกรมให้เลือกนับพันรายการเช่นกัน
Affiliate Network ที่ใหญ่ที่สุด คือค่ายไหน?
โดยทั่วไป Amazon Associates ถือว่าเป็นเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุด ด้วยการเข้าถึงทั่วโลกและจำนวนสินค้าที่หลากหลาย อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นรายใหญ่อื่นๆ อย่าง CJ Affiliate (ชื่อเดิมคือ Commission Junction), eBay Partner Network, ShareASale และ Rakuten Advertising ก็มีเครือข่ายขนาดใหญ่ไม่แพ้กัน
เครือข่ายการตลาดแบบพันธมิตรยอดนิยม มีแบรนด์ไหนบ้าง?
- Shopify Collabs
- ShareASale
- AWIN
- CJ Affiliate
- ClickBank
- FlexOffers
- Avangate Affiliate Network
- Rakuten Advertising
- Impact
- affiliaXe
- GiddyUp
โปรแกรม Affiliate ไหนจ่ายค่าคอมมิชชันสูงที่สุด?
โปรแกรมที่จ่ายค่าคอมสูงมักอยู่ในอุตสาหกรรมการเงิน ซอฟต์แวร์ และสินค้าหรู เช่น โปรแกรมบัตรเครดิต เว็บโฮสติ้งอย่าง Bluehost หรือแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซระดับพรีเมียมอย่าง Shopify ซึ่งค่าคอมอาจสูงถึงหลักพันหรือหลักหมื่นบาทต่อการขายหนึ่งครั้ง
ต้องเริ่มหาจากที่ไหน ถ้าอยากเข้าร่วมเครือข่ายพันธมิตร?
คุณสามารถหาเครือข่าย Affiliate ได้โดย
- ค้นหาคำว่า "เครือข่ายพันธมิตร"
- ดูจากไดเรกทอรีที่รวมรายการเครือข่ายการตลาดแบบพันธมิตรต่างๆ
- ค้นหาโดยตรงจากเว็บไซต์ที่ต้องการร่วมเป็นพันธมิตร