ถ้าคุณกำลังอยากเริ่มต้นธุรกิจใหม่สักอย่าง ก็ลองขายเทียนแฮนด์เมดดูสิ
การทำเทียนเป็นทักษะที่มือใหม่เริ่มต้นได้ไม่ยาก ดังนั้นถ้าคุณกำลังสนใจจะเริ่มธุรกิจเทียนล่ะก็ มาดูกันว่าคุณทำเงินออนไลน์จากสินค้าที่กำลังมาแรงชิ้นนี้ได้ยังไงf
พร้อมที่จะเริ่มธุรกิจของคุณแล้วหรือยัง? สร้างเว็บไซต์ของคุณได้เลยวันนี้ หรือมาเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องมือของ Shopify สำหรับการขายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ก่อนได้เลย
ทำไมถึงควรเริ่มธุรกิจเทียน
เทียนเป็นไอเท็มตกแต่งบ้านที่ขาดไม่ได้ และอุตสาหกรรมเทียนทั่วโลกก็กำลังเติบโต โดยคาดว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 10,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2032 ตามข้อมูลจาก Expert Market Research
ความต้องการใช้เทียนในเชิงพาณิชย์ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในร้านสปาที่ใช้เทียนสำหรับอโรมาเธอราพี หรือในร้านอาหารที่ใช้สร้างบรรยากาศผ่อนคลาย รายงานจาก National Candle Association จากสหรัฐอเมริกา ระบุว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่นิยมซื้อเทียนเพื่อตกแต่งบ้านและสร้างความผ่อนคลาย
การเริ่มธุรกิจเทียนมีข้อดีหลายอย่าง เช่น
- ต้นทุนเริ่มต้นต่ำ: เริ่มได้แม้มีงบไม่มาก
- ช่องทางการขายที่หลากหลาย: ขายได้ทั้งออนไลน์ งานคราฟต์แฟร์ หรือวางขายในร้านค้าท้องถิ่น
- เรียนรู้ได้ง่าย: เหมาะกับมือใหม่ที่อยากลองทำสินค้าทำมือ
- ปรับแต่งได้ตามใจ: สร้างสินค้าที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครได้ง่าย
ประเภทของเทียนแฮนด์เมดน่าขาย
หนึ่งในข้อดีของการเริ่มธุรกิจเทียนหอมก็คือ คุณสามารถสร้างสรรค์สินค้าได้หลากหลาย เมื่อคุณเรียนรู้ขั้นตอนพื้นฐานของการทำเทียนแล้ว ก็สามารถทดลองพัฒนาเทียนหลายประเภท เพื่อค้นหาว่าแบบไหนที่ตอบโจทย์ลูกค้าเป้าหมายและสอดคล้องกับเป้าหมายของแบรนด์คุณที่สุด มาดูเทียนยอดนิยมประเภทต่างๆ ที่น่านำไปใส่ในไลน์ผลิตภัณฑ์ของคุณกัน
เทียนจากถั่วเหลือง
เทียนชนิดนี้ใช้แว็กซ์ที่สกัดจากถั่วเหลือง เป็นทางเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแทนเทียนที่ทำจากปิโตรเลียมหรือพาราฟิน แว็กซ์ถั่วเหลืองผลิตจากทรัพยากรหมุนเวียน จึงจุดติดไฟได้สะอาดกว่า และไหม้ช้ากว่า ทำให้ลูกค้าได้รับความคุ้มค่ามากขึ้นจากเทียนแต่ละเล่ม

เทียนหอม หรือเทียนอโรมาเธอราพี
เทียนประเภทนี้เป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยม เพราะมีกลิ่นให้เลือกหลากหลาย ตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการเพิ่มบรรยากาศอบอุ่นหรือสดชื่นให้กับบ้าน นอกจากช่วยสร้างบรรยากาศที่น่ารื่นรมย์แล้ว เทียนหอมบางกลิ่นยังมีคุณสมบัติด้านอโรมาเธอราพีด้วย

เทียนอโรมาเธอราพีมักผสมน้ำมันหอมระเหย เพื่อสร้างประโยชน์ด้านสุขภาพและสุขภาวะ เช่น กลิ่นยอดนิยมอย่างลาเวนเดอร์ก็มักจะใช้เพื่อช่วยเพิ่มความผ่อนคลาย
ธุรกิจเทียนวีแกน
อผู้บริโภคให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมจากสัตว์มากขึ้น เทียนวีแกนจึงกลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์ โดยเป็นทางเลือกแทนเทียนที่ทำจากขี้ผึ้ง เทียนวีแกนมักใช้ส่วนผสมจากพืช เช่น แว็กซ์ถั่วเหลือง, แว็กซ์ธรรมชาติจากพืชชนิดอื่น ๆ และ สารหอมสังเคราะห์ (fragran oil) เป็นต้น

เทียนประดับตกแต่ง
เทียนประดับตกแต่งเน้นความสวยงามเป็นหลัก ด้วยรูปร่าง สีสัน และดีไซน์ที่แปลกตา โดดเด่น สะดุดตา แม้อาจไม่ได้มีกลิ่นหอมเหมือนเทียนประเภทอื่น แต่ก็ทำหน้าที่เป็นของตกแต่งบ้าน ที่ช่วยเพิ่มบรรยากาศและความมีสไตล์ให้กับพื้นที่ได้อย่างดีเยี่ยม

ถ้าคุณไม่อยากทำเทียนด้วยตัวเองล่ะก็ คุณสามารถหาเทียนยอดนิยมและสินค้าอื่นๆ ได้ง่ายๆ จากแบรนด์ชั้นนำบน Shopify ผ่าน Collective
วิธีเริ่มต้นธุรกิจเทียนของคุณเอง
- ทำการวิจัยตลาด
- สร้างเอกลักษณ์ให้แบรนด์ของคุณ
- ตั้งชื่อธุรกิจเทียน
- เขียนแผนธุรกิจ
- จดทะเบียนธุรกิจเทียนของคุณ
- คำนวณราคาขายที่เหมาะสม
- เริ่มผลิตเทียนเพื่อขาย
- สร้างร้านค้าออนไลน์ของคุณ
- วางแผนการตลาด
ทำตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อเริ่มต้นธุรกิจเทียนของคุณ และดาวน์โหลดเช็กลิสต์เริ่มต้นธุรกิจเทียน เพื่อใช้ติดตามความคืบหน้าของคุณได้เลย (คลิกลิงก์เพื่อดาวน์โหลด)
1. ทำการวิจัยตลาดธุรกิจเทียน
ตลาดเป้าหมายของคุณ คือผู้ซื้อที่มีแนวโน้มจะสนใจผลิตภัณฑ์ของคุณ และมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นลูกค้า ลูกค้ากลุ่มนี้จะช่วยกำหนดทิศทางการตัดสินใจทางธุรกิจของคุณ ตั้งแต่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ไปจนถึงการตลาด ในอุตสาหกรรมเทียนนั้น มีตลาดหลักๆ อยู่ 3 กลุ่ม ได้แก่
- เทียนระดับพรีเมียม (ประมาณ 1,000 - 3,500 บาท): เป็นกลุ่มสินค้าหรูหราที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมักมีบรรจุภัณฑ์ที่ดูดี กลิ่นหอมที่พิเศษ และการเล่าเรื่องแบรนด์ที่น่าสนใจ
- เทียนระดับกลาง (ประมาณ 350 บาท): ผลิตภัณฑ์ที่ดึงดูดกลุ่มลูกค้ากว้างๆ เช่น กลิ่นกุหลาบหรือเกรฟฟรุต ซึ่งมักพบในร้านค้าปลีกอย่าง Homepro
- เทียนระดับแมส (ประมาณ 150 - 300 บาท): ตัวเลือกที่มีราคาคุ้มค่า มีกลิ่นหอมทั่วไป เช่น วานิลลา หรือกลิ่นลมทะเล โดยแบรนด์ใหญ่ ๆ เช่น Yankee Candle และ Bed Bath and Beyond ครองตลาดนี้อยู่
การเลือกกลุ่มลูกค้าเป้าหมายจะต้องสอดคล้องกับเป้าหมายของคุณ ถ้าคุณอยากขายในร้านค้าปลีกใหญ่ ๆ อย่าง Homepro หรือ Index Living Mall ผลิตภัณฑ์ระดับกลางอาจเหมาะสมกว่า แต่ถ้าคุณมุ่งขายผ่านร้านออนไลน์หรือการขายตรง เทียนระดับพรีเมียมอาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
การเลือกกลุ่มเป้าหมายนี้จะส่งผลต่อทุกอย่าง ตั้งแต่การหาวัตถุดิบ ไปจนถึงการสร้างแบรนด์และการออกแบบบรรจุภัณฑ์เลยทีเดียว
2. สร้างเอกลักษณ์ให้แบรนด์ของคุณ
การสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งช่วยให้คุณสร้างกลุ่มผู้ติดตาม มีแนวทางในการทำการตลาด และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ดีกว่าให้กับลูกค้า แบรนด์ที่แข็งแกร่งเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเทียนที่เติบโตอย่างมากในช่วงสิบปีที่ผ่านมานี้
สร้างเรื่องราวของแบรนด์ให้น่าสนใจ: เรื่องราวของแบรนด์ช่วยให้คุณเชื่อมต่อกับลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว มันเป็นเรื่องราวที่กำหนดแบรนด์ของคุณและกลายเป็นรากฐานของภารกิจ ข้อความ และเสียงของแบรนด์ เรื่องราวของแบรนด์ในธุรกิจเทียนควรจะมีความน่าสนใจ เข้าถึงได้ง่าย และจริง นอกจากนี้ยังควรกระตุ้นความรู้สึกบางอย่างให้กับผู้คน ที่จะทำให้พวกเขาเริ่มลงมือทำสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการสมัครสมาชิก การซื้อสินค้า หรือการบริจาค
อย่างเช่นในเรื่องราวของ Keap Candles ที่ Harry Doull และ Stephen Tracy สองผู้ก่อตั้ง เริ่มทำเทียนหลังจากที่รู้สึกไม่แฮปปี้กับงานในวงการเทค พวกเขาต้องการทำสิ่งที่มีความหมาย และช่ววกระตุ้นแรงบันดาลใจในการทำงานได้ จึงตัดสินใจเข้าสู่วงการทำเทียน
ในการค้นหาเรื่องราวของตัวเอง ให้คุณถามตัวเองว่า
- ทำไมถึงทำธุรกิจเทียน
- ทำเทียนให้ใคร
- อยากสร้างความเปลี่ยนแปลงอะไรให้กับลูกค้า
- อยากสร้างความเปลี่ยนแปลงอะไรให้กับโลกใบนี้
อัตลักษณ์ทางสายตา: อัตลักษณ์ทางสายตา ซึ่งก็รวมถึงโลโก้ ภาพถ่าย เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย และบรรจุภัณฑ์ จะส่งผลโดยตรงต่อความรู้สึกของผู้คนเกี่ยวกับธุรกิจเทียนของคุณ เนื่องจากลูกค้าจะใช้เทียนของคุณทั้งในแง่ของกลิ่นและตกแต่ง ดังนั้นคุณจึงควรออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับรสนิยมของกลุ่มเป้าหมายของคุณ
“มุมมองโดยรวมที่ฉันวางให้แบรนด์ก็คือการสนุกสนาน ประสบการณ์ทั้งหมดที่เราพยายามจะชูก็คือประสบการณ์ที่สนุกสนาน” Erica Werber ผู้ก่อตั้ง Literie Candles กล่าว “การอยู่ใน Central Park เพื่อฉลองวันเกิดของใครสักคน หรือไปทานมื้อกลางวันแบบชุดใหญ่กับเพื่อนสนิท ควรจะรู้สึกดีและสนุกสนาน และฉันคิดว่าเราทำเรื่องนั้นได้สำเร็จแล้วผ่านบรรจุภัณฑ์ของเรา”

3. ตั้งชื่อธุรกิจเทียน
ชื่อธุรกิจเทียนของคุณควรจะสั้นและเรียบง่าย ซึ่งจะทำให้ชื่อนั้นน่าจดจำและออกเสียงได้ง่าย ถ้าลูกค้าจำชื่อแบรนด์ของคุณไม่ได้ ก็แปลว่าคุณจะพลาดโอกาสในการทำการตลาดแบบปากต่อปาก
ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือในการคิดชื่อล่ะก็ลองใช้ เครื่องมือตั้งชื่อธุรกิจของ Shopify เพื่อมองหาไอเดียใหม่ ๆ เพียงแค่ใส่คำสำคัญ คลิก “Generate Names” แล้วเลือกชื่อจากไอเดียที่ระบบสร้างขึ้นให้คุณจากหลายพันชื่อที่แนะนำได้เลย
4. เขียนแผนธุรกิจ
แผนธุรกิจคือสิ่งที่จะกำหนดกลยุทธ์ของคุณ ช่วยให้คุณเห็นว่ามีความท้าทายอะไรบ้าง ชี้ให้คุณเห็นว่าต้องต้องใช้ทรัพยากรอะไรบ้าง และช่วยวิเคราะห์ไอเดียธุรกิจของคุณก่อนการเปิดตัว ลองตั้งคำถามสำคัญเหล่านี้ดู
- เป้าหมายสูงสุดของแบรนด์คุณคืออะไร
- คู่แข่งโดยตรงของคุณคือใคร
- คุณจะขายในร้านค้าปลีกอย่าง Homepro หรือ Index Living Mall ไหม
- หรือจะเปิดร้านออนไลน์แล้วขายตรงถึงลูกค้าเลย
ให้คุณเก็บเป้าหมายเหล่านี้ไว้ในใจระหว่างที่คุณสร้างธุรกิจเทียนของตัวเอง
5. จดทะเบียนธุรกิจเทียน
การจดทะเบียนธุรกิจช่วยให้คุณได้รับความคุ้มครองทางกฎหมาย และเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้า
6. คำนวณราคาขายที่เหมาะสม
คุณจะตั้งราคาขายเทียนเท่าไหร่ดี กลยุทธ์การตั้งราคาของคุณควรขึ้นอยู่กับคุณภาพสินค้า ตำแหน่งแบรนด์ ตลาดเป้าหมาย และการแข่งขันในตลาด ตัวอย่างเช่น เทียนหอมระดับไฮเอนด์สามารถขายได้เกิน 3,500 บาท เลยทีเดียว มาดูวิธีตั้งราคาที่เหมาะกับตลาดของคุณกัน
- คำนวณต้นทุนสินค้า: รวมต้นทุนวัสดุการทำเทียน เวลาการผลิต และต้นทุนอุปกรณ์
- รวมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน: เช่น ค่าอุปกรณ์สำนักงาน ค่าทนาย ค่าประกัน ค่าสาธารณูปโภค และงบการตลาด
- ตั้งอัตรากำไร: ใช้เครื่องคำนวณอัตรากำไรฟรี ของ Shopify เพื่อช่วยคำนวณกำไรที่คุณต้องการหลังจากหักต้นทุน
หมายเหตุ: ถ้าคุณขายส่ง ราคาจะต่ำกว่าการขายปลีก แต่สามารถทำยอดขายได้ในปริมาณมากขึ้น
7. เริ่มผลิตเทียนเพื่อขาย
คุณสามารถทำเทียนได้เองที่บ้านในครัวของคุณเองเลย มาดูวิธีทำเทียนจากถั่วเหลืองแบบง่าย ๆ กันก่อน แล้วคุณสามารถปรับสูตรนี้ให้กลายเป็นสูตรเฉพาะของแบรนด์คุณได้ภายหลัง
อุปกรณ์ที่ต้องใช้สำหรับทำเทียนถั่วเหลือง
- แว็กซ์ถั่วเหลือง
- ไส้เทียนจากฝ้าย
- กาวร้อน
- น้ำมันหอมระเหย
- ไม้พาย
- หม้อสองชั้น
- เทอร์โมมิเตอร์
- ขวดโหลแก้ว
- ปากกา หรือ ดินสอ
- แม่พิมพ์เทียน

หาซื้อแว็กซ์ถั่วเหลืองในราคาประมาณกิโลกรัมละ 700 บาทจากเว็บไซต์สำหรับทำเทียนแบบขายส่ง เช่น Bulk Apothecary ส่วนขวดแก้วก็สามารถหาได้ง่ายๆ จากร้านของมือสอง หรือร้านทุกอย่าง 20 บาท ส่วนวัสดุที่เหลืออย่างอื่น คุณก็หาซื้อได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป
ตามรายงานของ National Candle Association กลิ่นหอมเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการตัดสินใจซื้อ ดังนั้นคุณควรให้เวลาในการเลือกกลิ่นอย่างจริงจัง ลองไปดูที่ร้านขายของทำมือหรือร้านขายผลิตภัณฑ์สุขภาพใกล้บ้าน แทนที่จะใช้กลิ่นพื้นฐานแบบดอกไม้หรือกลิ่นไม้ ลองสร้างกลิ่นที่ซับซ้อนและแตกต่าง เช่น กลิ่นที่ชวนให้นึกถึงความทรงจำเก่าๆ หรือกระตุ้นความสนใจของคนที่ได้กลิ่นดูสิ

เตรียมขี้ผึ้งและภาชนะของคุณ: เริ่มจากการนำขี้ผึ้งถั่วเหลืองมาละลายโดยใช้หม้อสองชั้น (หรือจะใช้ชามแก้ววางบนปากหม้อใบใหญ่ก็ได้) ตั้งไฟกลาง จากนั้นคนด้วยพายหรือไม้พาย เพื่อช่วยให้ขี้ผึ้งละลายเร็วขึ้นและไม่จับตัวเป็นก้อน

ระหว่างที่ขี้ผึ้งกำลังละลาย ให้คุณใช้กาวติดไส้เทียนลงไปที่ก้นภาชนะ แล้วปล่อยให้แห้งเพื่อให้ไส้เทียนอยู่กับที่ ไม่ล้มขณะเทขี้ผึ้ง
ปรับสูตรเทียนให้เป็นสไตล์ของคุณ: เมื่อขี้ผึ้งละลายดีแล้ว ให้เติมน้ำมันหอมระเหยในอัตราส่วนประมาณ 28 กรัม ออนซ์ต่อขี้ผึ้ง 500 กรัม ถ้าอยากได้เทียนสีสวยๆ ให้ใส่เศษสีเทียนปลอดสารพิษลงไปแล้วคนให้เข้ากัน จากนั้นปล่อยให้ส่วนผสมเย็นลงเหลือประมาณ 50 - 60°C โดยใช้เทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิกำกับ

เตรียมเทส่วนผสม: จับไส้เทียนให้ตั้งตรง แล้วเทส่วนผสมที่เย็นแล้วลงในขวดแก้วจนถึงประมาณ 3 ส่วน 4 ของภาชนะ จากนั้นมัดปลายไส้เทียนเข้ากับปากกาแล้ววางพาดไว้บนปากขวด เพื่อให้ไส้เทียนอยู่ตรงกลางและไม่เอียง

ขั้นตอนสุดท้าย: ปล่อยให้เทียนเซ็ตตัวจนขี้ผึ้งแข็ง อาจมีรอยบุ๋มเล็กๆ รอบไส้เทียน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ จากนั้นเทขี้ผึ้งที่เหลือเติมให้เต็มขวด พอเทียนแข็งตัวเต็มที่แล้ว ตัดไส้เทียนส่วนเกินออก เท่านี้ก็พร้อมจุดแล้ว!

8. สร้างร้านค้าออนไลน์
การขายเทียนในร้านของคุณเองให้ผลกำไรมากกว่าและช่วยให้คุณควบคุมแบรนด์ได้ดีกว่าการขายในตลาดออนไลน์อย่าง Amazon ซึ่งจะหักค่าธรรมเนียมจากกำไรของคุณจำนวนมาก
แม้ว่าการสร้างร้านค้าออนไลน์อาจดูท้าทาย แต่ Shopify ก็สามารถง่ายที่จะเริ่มต้นโดยที่คุณไม่ต้องเขียนโค้ดเป็น หรือมีทุนก้อนโตเลย
Shopify จะช่วยดูแลด้านต่างๆ ให้ ดังนี้
- การออกแบบเว็บไซต์
- รายการสินค้า
- การจัดการสินค้าคงคลัง
- การประมวลผลการชำระเงิน
- การทำการตลาดอัตโนมัติ
- การพิมพ์ป้ายการจัดส่งระหว่างประเทศและการติดตามพัสดุ
- ช่องทางการขายหลายรูปแบบ รวมถึง Instagram, TikTok, Amazon และ Walmart
9. วางแผนการตลาด
วิธีการขายเทียนที่คุณทำเองของคุณผ่านช่องทางต่างๆ
การตลาดออนไลน์: หนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพในการขายเทียนคือการขายออนไลน์ ใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลหลายแห่งเพื่อเข้าถึงลูกค้าที่มีศักยภาพทั่วโลก
แพลตฟอร์มและกลยุทธ์เหล่านี้มักได้ผลดีสำหรับผู้ทำเทียน
- Instagram: แบรนด์ไลฟ์สไตล์หลายแห่งประสบความสำเร็จผ่านการตลาดบน Instagram จัดระเบียบภาพผลิตภัณฑ์ที่สวยงาม แสดงเนื้อหาหลังฉาก และเชื่อมต่อกับไมโครอินฟลูเอ็นเซอร์
- Pinterest: การตกแต่งบ้านเป็นหมวดหมู่หลักสำหรับผู้ใช้ Pinterest ที่กำลังมองหาแบรนด์และผลิตภัณฑ์ ทำการตลาดบน Pinterest ให้เป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์ของคุณ
- Snapchat: เป็นอีกแพลตฟอร์มที่เน้นการมองเห็นซึ่งมีผู้ใช้มากกว่า 200 ล้านคน คุณสามารถใช้การตลาดบน Snapchat เพื่อเข้าถึงผู้ชมที่กำลังเติบโต
- การตลาดผ่านอีเมล: ส่งโปรโมชั่นและอัปเดตแบรนด์โดยตรงไปยังกล่องจดหมายของลูกค้า ใช้แอปอย่าง Shopify Forms เพื่อเก็บอีเมลของผู้เยี่ยมชมสำหรับการตลาดในอนาคต
- การแจกของรางวัล: ใช้การแจกของรางวัลและการประกวดเพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์และแสดงผลิตภัณฑ์ของคุณ
การตลาดออฟไลน์: แม้ว่าการขายออนไลน์จะมีคุณค่า แต่ก็ไม่ควรมองข้ามการขายแบบพบปะลูกค้าโดยตรง เทียนเป็นสินค้าที่มีขนาดกะทัดรัดและสามารถขนส่งได้ง่าย เหมาะสำหรับงานแสดงสินค้าหรืองานป๊อปอัป การขายแบบออฟไลน์มีข้อดีหลายประการ ดังนี้
- รับฟังความคิดเห็นโดยตรง: พบกับลูกค้าเพื่อเข้าใจความต้องการและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ของคุณ
- โอกาสในการขายส่ง: หากคุณสนใจการขาย B2B สามารถเชื่อมต่อกับผู้ซื้อขายส่งที่งานตลาดและงานแสดงสินค้า
- สร้างผู้ติดตามออนไลน์: ขยายฐานผู้ติดตามในโซเชียลมีเดียและสร้างรายชื่ออีเมลที่งานออฟไลน์
- สร้างเครือข่ายและเรียนรู้: เชื่อมต่อกับผู้ผลิตและผู้ประกอบการคนอื่นๆ เพื่อแรงบันดาลใจและการแก้ปัญหา
การขายแบบออฟไลน์ต้องใช้ความพยายามมากกว่าการนั่งทำงานที่โต๊ะ แต่เครื่องมือที่เหมาะสมจะช่วยให้การขายสะดวกมากขึ้น ระบบขายซึ่งอยู่บนมือถืออย่าง Shopify POS ช่วยจัดการการทำธุรกรรมได้ราบรื่นในงานแสดงสินค้า งานแฟร์ และงานออกร้านป๊อปอัป

เคล็ดลับในการทำธุรกิจเทียน
ไม่ว่าคุณจะเริ่มทำธุรกิจเสริม หรือทำธุรกิจเต็มเวลา นี่คือเคล็ดลับที่คุณต้องรู้
ถ่ายภาพสินค้าให้สวย
ภาพถ่ายผลิตภัณฑ์สวยๆ จะช่วยขายเทียนของคุณได้ดีขึ้น แสดงภาพที่ชัดเจนของรูปร่างและป้ายชื่อ ลองจัดแสดงเทียนในสภาพแวดล้อมภายในบ้านเพื่อให้ลูกค้าสามารถจินตนาการได้ว่าเทียนจะดูเป็นอย่างไรในบ้านของพวกเขา คุณสามารถจ้างช่างภาพมืออาชีพ หรือถ่ายภาพคุณภาพสูงด้วยสมาร์ทโฟนก็ได้
เคล็ดลับ: ใช้ Shopify Collabs เพื่อค้นหาผู้สร้างเนื้อหาที่สามารถผลิตเนื้อหาสำหรับคุณ ค้นหา ตรวจสอบ และอนุมัติอินฟลูเอHนเซอร์ จากนั้นส่งเทียนฟรีให้พวกเขาผ่าน Shopify Admin ของคุณ
สร้างโอกาสในการขายมากขึ้น
เน้นการสร้างลูกค้าซ้ำ เพราะจะสามารถทำกำไรได้มากกว่าการต้องคอยหาลูกค้าใหม่ๆ โดยลองทำตามนี้ดู
- ขายควบคู่ไปกับเทียนกลิ่นดังๆ ในขนาดพกพา
- เสนอเทียนกลิ่นพิเศษแบบลิมิเต็ดอิดิชั่น
- สร้างกล่องสมัครสมาชิก เช่น “Candle of the Month Club” ของ Frostbeard Studio
ขยายไลน์ผลิตภัณฑ์
ลองทดลองผสมกลิ่นใหม่ ๆ เพื่อให้ตอบโจทย์ความชอบที่หลากหลาย นอกจากนี้คุณยังสามารถขยายไปทำสินค้าทำมือประเภทอื่นๆ เช่น สบู่ แชมพู หรือเครื่องหอม โดยใช้กลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของคุณเอง เช่น Tofino Soap Company คุณสามารถขายเพิ่มให้ลูกค้าโดยใช้กลิ่นที่พวกเขาชอบบ่อย ๆ สร้างแพ็กเกจดูแลตัวเองที่เน้นกลิ่น และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ
เน้นการขายช่วงเทศกาล
National Candle Association รายงานว่า 35% ของยอดขายเทียนเกิดขึ้นในช่วงคริสต์มาส และ 76% ของผู้ซื้อเห็นว่าเทียนเป็นของขวัญที่ดี เตรียมแคมเปญวันหยุดด้วยโปรโมชันพิเศษและโฆษณาที่มุ่งเป้า
ใช้โซเชียลมีเดียอย่างมีประสิทธิภาพ
สร้างผู้ติดตามและเชื่อมต่อกับลูกค้าใหม่ๆ ด้วยวิดีโอสั้นๆ ที่เล่าเรื่องราวของแบรนด์ เช่นคอนเทนต์เหล่านี้
- โชว์ขั้นตอนการทำเทียน
- เล่าเรื่องราวเบื้องหลังธุรกิจของคุณ
- ถ่ายกิจวัตรยามเย็นที่มีเทียนของคุณเป็นส่วนหนึ่ง
- เปรียบเทียบคุณสมบัติของเทียนแต่ละแบบ
- แชร์ปัญหาและแนวทางแก้ไขที่คุณเจอในธุรกิจ
“เราไม่ได้แค่ถ่ายรูปสินค้าแบบนิ่งๆ แต่เราแสดงให้เห็นว่ามันจะเป็นส่วนหนึ่งของบ้านคุณยังไง” Kristen Pumphrey เจ้าของ P.F. Candle Co. กล่าว “มันคือการสื่อสารว่า ถ้าคุณซื้อเทียนนี้ไป พื้นที่ของคุณจะรู้สึกยังไง”
เริ่มธุรกิจทำเทียนของคุณวันนี้
แค่มีเครื่องมือที่ใช่ สูตรที่เหมาะ และกลยุทธ์การตลาดที่แข็งแรง คุณก็มีทุกอย่างพร้อมสำหรับเปลี่ยนความหลงใหลในการทำเทียนให้กลายเป็นธุรกิจที่เติบโตได้จริง ไม่ว่าจะเริ่มจากเทียนจากถั่วเหลืองแบบเรียบง่าย หรือพัฒนาไปสู่กลิ่นเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร เส้นทางจากคนรักงานคราฟต์สู่เจ้าของกิจการ เริ่มต้นได้ตั้งแต่วันนี้
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับธุรกิจเทียน
การทำเทียนเป็นธุรกิจที่ดีหรือไม่
ดีสิ ใช้อุปกรณ์น้อย ไม่ต้องมีความรู้เทคนิคเยอะ ใช้ต้นทุนเริ่มต้นต่ำ และสามารถทำจากที่บ้านได้
ต้นทุนเริ่มต้นธุรกิจเทียนอยู่ที่เท่าไหร่
เตรียมงบประมาณราว 10,000 บาท สำหรับธุรกิจเทียนเล็กๆ ที่บ้าน ครอบคลุมอุปกรณ์พื้นฐานอย่างหม้อสองชั้น หม้อเทียน และภาชนะบรรจุ
การทำเทียนมีกำไรหรือไม่
ได้แน่นอน ด้วยต้นทุนเริ่มต้นต่ำ และตลาดที่คาดว่าจะเติบโตเกือบ 5 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2026 ทำให้ธุรกิจนี้มีโอกาสสร้างกำไรสูง
กลิ่นแบบไหนเหมาะกับเทียนมากที่สุด
น้ำมันหอมระเหยเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด โดยแบ่งได้เป็น 4 กลุ่มหลัก ดังนี้ กลิ่นดอกไม้ กลิ่นสดชื่น กลิ่นไม้ และกลิ่นตะวันออก
ต้องมีใบอนุญาตขายเทียนหรือไม่
ไม่จำเป็นต้องมีใบอนุญาตเฉพาะสำหรับการทำเทียน แต่ควรจดทะเบียนธุรกิจเป็น LLC หรือ S corporation เพื่อความคุ้มครองทางกฎหมาย และอย่าลืมตรวจสอบข้อกำหนดท้องถิ่นเรื่องใบอนุญาตขายสินค้า ภาษี และประกันธุรกิจด้วยล่ะ