ทุกวันนี้มีโปรแกรม Affiliate ให้เลือกเยอะมากสำหรับคนที่อยากสร้างรายได้จากการส่งคนเข้าเว็บหรือช่วยปิดการขาย
แต่การหาโปรแกรมที่จ่ายค่าคอมสูงจริงๆ ก็ไม่ง่าย เพราะมีทั้งสินค้าที่หลากหลายและรูปแบบรายได้ที่ต่างกัน นักการตลาดหลายคนอาจเผลอเลือกพาร์ตเนอร์ที่ทำเงินไม่คุ้มโดยไม่รู้ตัว โปรแกรม Affiliate ค่าคอมสูงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะให้ค่าคอมมิชชันสูงกว่า แต่ก็ต้องอาศัยทักษะ ความน่าเชื่อถือ และฐานผู้ติดตามที่มีคุณภาพพอสมควร
มาดู 15 โปรแกรม Affiliate ค่าคอมสูงที่เราคัดมา ซึ่งอาจช่วยให้คุณสร้างรายได้เยอะขึ้นโดยไม่ต้องขายเยอะ
การตลาด Affiliate ค่าคอมสูงคืออะไร
การทำการตลาด Affiliate แบบค่าคอมสูง คือการโปรโมตสินค้าหรือบริการที่มีราคาค่อนข้างแพง เพื่อแลกกับค่าคอมมิชชันที่มากกว่า ซึ่งช่วยให้นักการตลาดสร้างรายได้เยอะขึ้นจากยอดขายเพียงไม่กี่ครั้ง
จุดเด่นของการทำ Affiliate แบบค่าคอมสูง คือค่าคอมมิชชันต่อการขายที่สูงมาก โดยปกติมักอยู่ที่ 10% ถึง 50% ของราคาสินค้า หรือจ่ายเป็นเงินก้อน เช่น 3,500 บาทขึ้นไปต่อออเดอร์ บางโปรแกรมยังมีระบบค่าคอมแบบรายเดือนสำหรับสินค้าที่เก็บค่าสมาชิก ซึ่งหมายความว่าแค่ขายได้ครั้งเดียวก็สร้างรายได้ต่อเนื่องได้เลย
นักการตลาดที่ทำ Affiliate แบบค่าคอมสูงมักเน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายขนาดเล็กที่สนใจสินค้าระดับพรีเมียม ตัวอย่างสินค้าที่มักใช้ในโปรแกรมเหล่านี้ ได้แก่
- ซอฟต์แวร์
- เครื่องมือด้านการเงินและการลงทุน
- เครื่องประดับ
- ประสบการณ์ท่องเที่ยวสุดหรู
นักการตลาด Affiliate ค่าคอมสูงทำเงินได้เท่าไหร่
รายได้จากการทำ Affiliate แบบค่าคอมสูง (high-ticket affiliate marketing) แตกต่างกันไปตามประเภทสินค้าและโครงสร้างค่าคอมมิชชัน โปรแกรมบางตัวจ่ายแบบเหมาจ่าย เช่น Shopify ที่ให้ค่าคอมสูงสุดประมาณ 5,200 บาทต่อการแนะนำ POS Pro สำเร็จหนึ่งครั้ง ขณะที่บางโปรแกรมจ่ายเป็นเปอร์เซ็นต์จากยอดขาย
ข้อมูลจาก ZipRecruiter ระบุว่ารายได้เฉลี่ยของนักการตลาดสายค่าคอมสูงอยู่ที่ประมาณ 47,500 ดอลลาร์ต่อปี หรือราว 1.66 ล้านบาท ขณะที่รายได้เฉลี่ยของนักการตลาด Affiliate โดยรวมอยู่ที่ประมาณ 82,015 ดอลลาร์ หรือประมาณ 2.87 ล้านบาทต่อปี
เหตุผลที่นักการตลาด Affiliate ทั่วไปอาจทำรายได้เฉลี่ยมากกว่าสายค่าคอมสูง เป็นเพราะจำนวนการปิดการขายที่มากกว่า แม้การขายแบบค่าคอมสูงจะได้ค่าคอมเยอะต่อครั้ง แต่สินค้ามักมีราคาสูง ทำให้ลูกค้าตัดสินใจช้าหรือซื้อน้อยลง
นอกจากจะต้องเจอกับผู้บริโภคที่ตัดสินใจซื้ออย่างระมัดระวังแล้ว นักการตลาดสายค่าคอมสูงยังต้องแข่งขันกับนักการตลาดคนอื่นๆ ที่เล็งขายสินค้าแบบเดียวกันอีกด้ว เพื่อให้ปิดการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ นักการตลาดสายนี้จึงต้องมีความรู้ลึกในกลุ่มสินค้าเฉพาะทางที่ตนเลือกโปรโมต พร้อมกับวางกลยุทธ์คอนเทนต์อย่างรอบคอบ เพื่อโน้มน้าวใจผู้ซื้อที่ลังเลให้ตัดสินใจได้ในที่สุด

ค่าเฉลี่ยรายได้จากการตลาดแบบพันธมิตรที่มีราคาสูงในสหรัฐอเมริกา
Ziprecruiter
นักการตลาดสาย Affiliate บางคนสามารถทำรายได้มหาศาล ตัวอย่างเช่น Pat Flynn ที่เปิดเผยว่าเขาทำรายได้จาก Affiliate รวมมากกว่า 3.5 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 122 ล้านบาท) ตั้งแต่ปี 2010 อย่างไรก็ตาม ค่าเฉลี่ยของรายได้จากการทำ Affiliate ทั่วไปนั้นต่ำกว่ามาก จากการสำรวจของ Influencer Marketing Hub ในปี 2023 พบว่า 57.55% ของผู้ตอบแบบสอบถามทำรายได้จาก Affiliate ไม่ถึง 10,000 ดอลลาร์ต่อปี หรือประมาณ 350,000 บาท
แม้การทำ Affiliate แบบค่าคอมสูงจะเปิดโอกาสให้คุณสร้างรายได้มากต่อการขายหนึ่งครั้ง แต่ก็ต้องเข้าใจว่ายอดขายประเภทนี้มักเกิดขึ้นได้ยากกว่า เนื่องจากการโน้มน้าวให้คนซื้อสินค้าราคาแพงย่อมยากกว่าการขายของชิ้นเล็กที่มีราคาถูก หากคุณอยากประสบความสำเร็จในการทำ Affiliate แบบค่าคอมสูง คุณต้องมีความรู้เชิงลึกในสินค้าเฉพาะทางกลุ่มนั้นๆ และวางกลยุทธ์คอนเทนต์อย่างแม่นยำเพื่อเข้าถึงผู้ซื้อที่อาจยังลังเล
มีงบน้อยแต่อยากเริ่มทำ Affiliate ใช่ไหม เรียนรู้วิธีเริ่มต้นธุรกิจ Affiliate โดยไม่ต้องใช้เงินลงทุนเลยก็ยังได้
15 โปรแกรม Affiliate ค่าคอมสูงที่น่าสนใจที่สุด
- Shopify
- WP Engine
- Liquid Web
- ClickFunnels
- HubSpot
- Amazing Selling Machine
- Authority Hacker
- Smartproxy
- MemberMouse
- Fiverr
- Semrush
- Kinsta
- Spocket
- Google Workspace
- Villiers
1. Shopify

กลุ่ม Affiliate: ธุรกิจและผู้ประกอบการ
Shopify Affiliate Program คือโปรแกรม Affiliate ค่าคอมสูงที่เหมาะสำหรับนักการศึกษา นักรีวิว และครีเอเตอร์ที่มีผู้ติดตามกลุ่มเป้าหมายด้านธุรกิจและผู้ประกอบการ โปรแกรมนี้ดำเนินการผ่านแพลตฟอร์มติดตามผล Affiliate ของ Impact
เมื่อคุณเป็นพาร์ตเนอร์ คุณจะได้รับค่าคอมมิชชันทุกครั้งที่มีผู้สมัครใช้งานแพ็กเกจ Shopify แบบ Basic, Grow หรือ Advanced รวมถึงการซื้อฮาร์ดแวร์ POS โดยค่าคอมมิชชันจะแตกต่างกันไปตามประเทศ แต่ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา คุณสามารถรับได้สูงสุดถึง $150 (ประมาณ 5,250 บาท) ต่อการแนะนำหนึ่งครั้ง ทั้งจากแพ็กเกจ Shopify และฮาร์ดแวร์ POS
ทีม Affiliate ของ Shopify ยังสนับสนุนคุณด้วยเครื่องมือทางการตลาดแบบครบชุด ทั้งคลังงานครีเอทีฟ สื่อการเรียนรู้ Lead Magnet และแดชบอร์ดส่วนตัวที่ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประสิทธิภาพของคุณ
ข้อกำหนดสำหรับ Affiliate
- ต้องมีเว็บไซต์ที่ใช้งานอยู่และดูแลเอง
- มีผู้ติดตามหรือกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน
- สร้างคอนเทนต์ต้นฉบับ เช่น คอร์สออนไลน์ บล็อกโพสต์ วิดีโอ หรือคู่มือ
- มีประสบการณ์เกี่ยวกับธุรกิจ การเป็นผู้ประกอบการ Shopify หรือแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอื่นๆ
รายละเอียดสำคัญ
- ค่าคอมมิชชั่นแบบคงที่ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของพ่อค้าแม่ค้า
- ค่าคอมมิชชั่นสูงสุดถึง $150 (ประมาณ 5,250 บาท) สำหรับการแนะนำแพลนราคาปกติ และสูงสุดถึง $150 สำหรับการแนะนำ POS Pro
- จ่ายค่าคอมมิชชั่นทุก 2 สัปดาห์เป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ผ่านบัญชีธนาคารหรือ PayPal
- คุกกี้ติดตามการซื้อสินค้ามีอายุ 30 วัน
2. WP Engine

กลุ่ม Affiliate: เว็บโฮสติ้ง
WP Engine เป็นบริษัทที่จำหน่ายแผนเว็บโฮสติ้งสำหรับเว็บไซต์ WordPress โดย Affiliate จะได้รับค่าคอมมิชชั่นค่าคอมสูงเมื่อแนะนำลูกค้าใหม่ที่สมัครแผนโฮสติ้งของ WP Engine การจ่ายเงินจะอยู่ประมาณ 3,500 บาท ถึง 14,000 บาท ขึ้นอยู่กับแผนที่ลูกค้าเลือก คุณจะได้รับเงินประมาณวันที่ 20 ของทุกเดือน หลังจากที่ลูกค้าที่คุณแนะนำได้รักษาแผนไว้ครบ 62 วัน
รายละเอียดสำคัญ
- อัตราค่าคอมมิชชั่นอยู่ประมาณ 3,500 บาท สำหรับแผน WP Lite ไปจนถึงประมาณ 14,000 บาท สำหรับแผน Core
- มีโบนัสสำหรับการแนะนำลูกค้าหลายรายต่อเดือน
- ระยะเวลา Cookie: 180 วัน
3. Liquid Web

กลุ่ม Affiliate: การโฮสต์เว็บไซต์
Liquid Web เป็นบริษัทเว็บโฮสติ้งที่มีโปรแกรม Affiliate ค่าคอมสูง ซึ่งบริหารจัดการผ่านซอฟต์แวร์จัดการพันธมิตร Impact คุณไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์การตลาด Affiliate เพื่อเข้าร่วม และจะได้รับการจับคู่กับผู้จัดการ Affiliate เพื่อช่วยสนับสนุน Affiliates จะได้รับค่าคอมมิชชั่นประมาณ 150% ถึง 300% ของยอดขายแผนโฮสติ้งของ Liquid Web สูงสุดประมาณ 245,000 บาท
รายละเอียดสำคัญ
- ค่าคอมมิชชั่นเริ่มต้นที่ประมาณ 150% ของยอดขายแต่ละครั้ง โดยขั้นต่ำประมาณ 5,250 บาท (150 ดอลลาร์สหรัฐโดยประมาณ) และสูงสุด 300% ต่อการขาย และไม่เกิน 245,000 บาท (7,000 ดอลลาร์สหรัฐโดยประมาณ)
- จ่ายค่าคอมมิชชั่นผ่านการโอนตรง, ACH, PayPal หรือเครดิตโฮสติ้ง ภายใน 15 วันหลังจากวันที่ล็อกการอ้างอิง
- ระยะเวลา Cookie: 90 วัน
4. ClickFunnels

กลุ่ม Affiliate: เครื่องมือสร้าง Marketing Funnel
ClickFunnels เป็นซอฟต์แวร์การตลาดที่ช่วยธุรกิจสร้าง Marketing Funnel ด้วยการใช้หน้า Landing Page, นับถอยหลัง, ระบบอัตโนมัติ และส่วนขยายเว็บไซต์อื่น ๆ โปรแกรม Affiliate ของ ClickFunnels เสนอค่าคอมมิชชั่นรายเดือนแบบต่อเนื่องประมาณ 30% ตราบเท่าที่บัญชีที่คุณแนะนำยังคงใช้งานอยู่ และคุณจะได้รับโบนัสประมาณ 17,500 บาท ต่อเดือนเมื่อมีผู้แนะนำที่ใช้งานมากกว่า 100 ราย
รายละเอียดสำคัญ
- ค่าคอมมิชชั่นรายเดือนต่อเนื่องประมาณ 30%
- จ่ายค่าคอมมิชชั่นสองครั้งต่อเดือน (หลังจากผู้ที่คุณแนะนำใช้งานครบ 30 วัน) ผ่านแอป Tipalti ที่สามารถเชื่อมต่อกับ PayPal หรือบัญชีธนาคารของคุณ
- ระยะเวลา Cookie: 45 วัน
5. HubSpot

กลุ่ม Affiliate: เครื่องมือการตลาด
HubSpot HubSpot คือแพลตฟอร์มบริหารจัดการความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) ที่เชื่อมโยงทีมการตลาด ฝ่ายขาย และบริการลูกค้าของธุรกิจ โปรแกรม Affiliate ของ HubSpot ซึ่งบริหารผ่านแพลตฟอร์มจัดการพันธมิตร Impact แบ่งเป็น 3 ระดับตามประสิทธิภาพ:
- ระดับ Starter (0 ถึง 29 รายสมัครต่อเดือน) ได้ค่าคอมมิชชั่นรายเดือนประมาณ 30% นานสูงสุด 1 ปี
- ระดับ Sprocket (0 ถึง 99 รายสมัครต่อเดือน) ได้ค่าคอมมิชชั่นรายเดือนประมาณ 30% นานสูงสุด 1 ปี และ/หรือ ค่าธรรมเนียมสมัครสมาชิก
- ระดับ Elite (100 รายสมัครขึ้นไปต่อเดือน) ได้ค่าคอมมิชชั่นแบบกำหนดเอง
คุณต้องรักษาปริมาณผู้แนะนำให้คงที่ 3 เดือนเพื่อเลื่อนขึ้นระดับถัดไป ในระดับ Sprocket และ Elite คุณจะได้รับคำแนะนำเว็บไซต์เฉพาะบุคคล และในระดับ Elite ยังมีการพูดคุยส่วนตัวกับผู้จัดการ Affiliate ด้วย
รายละเอียดสำคัญ
- ค่าคอมมิชชั่นรายเดือนประมาณ 30% เป็นระยะเวลานานสูงสุด 1 ปี โดยจะได้รับค่าตอบแทนเพิ่มขึ้นเมื่อแนะนำลูกค้ามากขึ้น
- ชำระเงินผ่าน PayPal หรือโอนเงินตรงบัญชีธนาคาร หลังจากออกใบแจ้งหนี้ครบ 30 วัน
- ระยะเวลาคุกกี้ 180 วัน
6. Amazing Selling Machine

กลุ่ม Affiliate: หลักสูตรออนไลน์
Amazing Selling Machine (ASM) เป็นโปรแกรมฝึกอบรมที่สอนผู้ประกอบการวิธีขายบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เช่น Amazon และ Shopify โดยมีหลักสูตรออนไลน์ 6 สัปดาห์ การให้คำปรึกษาส่วนตัว และการเข้าถึงชุมชนผู้ขายทั่วโลก
ในฐานะ Affiliate คุณสามารถโปรโมทข้อเสนอหลัก 3 อย่าง ได้แก่
- Amazing Selling Machine หลักสูตรหลักของแบรนด์
- สมาชิก Amazing Academy
- บัตรเข้าร่วมงาน SellerCon งานประชุมประจำปีของแบรนด์
รายละเอียดสำคัญ
- อัตราค่าคอมมิชชั่นสูงสุดประมาณ 50%
- ค่าคอมมิชชั่นแบบรายเดือนสำหรับสมาชิกที่แนะนำ
- ชำระเงินรายเดือนผ่าน PayPal เช็ค หรือโอนเงินผ่านธนาคาร
- ระยะเวลาคุกกี้ 60 วัน
7. Authority Hacker

กลุ่ม Affiliate: หลักสูตรออนไลน์
Authority Hacker ดำเนินการโดยนักพอดแคสต์ Gael Breton และ Mark Webster เป็นบริษัทการศึกษาการตลาดออนไลน์ที่สอนวิธีเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์และอัตราการแปลงลูกค้า โดยเน้นกลยุทธ์การเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องมือค้นหา (SEO)
โปรแกรม Affiliate ของ Authority Hacker ให้ค่าคอมมิชชั่นสูงสุดประมาณ 1,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อการขาย หรือประมาณ 52,500 บาท โดยอัตราค่าคอมมิชชั่นอยู่ระหว่าง 20% ถึง 40% ขึ้นอยู่กับจำนวนการขายที่คุณทำได้ ในการสมัครโปรแกรม คุณต้องมีแหล่งที่มาของทราฟฟิกที่พิสูจน์ได้และกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้อง
รายละเอียดสำคัญ
- ค่าคอมมิชชั่น 20% ถึง 40% สูงสุดประมาณ 1,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 52,500 บาท) ต่อการขาย
- ชำระเงินรายเดือนผ่านบัญชี PayPal Business วิธีการชำระเงินอื่น ๆ มีตามกรณีและมีขั้นต่ำการจ่ายเงิน 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 35,000 บาท)
- ระยะเวลาคุกกี้ 60 วัน
8. Smartproxy

กลุ่ม Affiliate: บริการเว็บ
Decodo (เดิมชื่อ Smartproxy) จำหน่ายบริการเว็บสแครปปิงและเครือข่ายพร็อกซีแบบ Residential ซึ่งทำหน้าที่เป็นเกราะกั้นระหว่างคุณกับเว็บไซต์ต่าง ๆ ธุรกิจสามารถใช้บริการของ Decodo เพื่อข้ามข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์ เก็บข้อมูลในพื้นที่ต่าง ๆ และอื่น ๆ
ผู้ร่วมโปรแกรม Affiliate ของ Decodo จะได้รับค่าคอมมิชชั่นจากยอดขายแพลนพร็อกซี สูงสุดประมาณ 2,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 87,500 บาทต่อผู้สมัครใหม่ โปรแกรมนี้ดำเนินการผ่านแพลตฟอร์ม Impact ซึ่งดูแลการจ่ายเงิน
รายละเอียดสำคัญ
- ค่าคอมมิชชั่นสูงสุด 50% สูงสุดประมาณ 2,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 87,500 บาท) ต่อการขาย
- การจ่ายเงินผ่าน Impact
- ระยะเวลาคุกกี้ 60 วัน
9. MemberMouse

กลุ่ม Affiliate: แอปอีคอมเมิร์ซ
MemberMouse คือปลั๊กอินสมาชิกระดับองค์กรสำหรับ WordPress ที่ช่วยให้ผู้ใช้สร้างเนื้อหาที่ต้องกรอกข้อมูล เช่น อีเมล เพื่อเข้าถึง รับชำระเงิน และจัดการลูกค้าได้
ค่าคอมมิชชั่นสำหรับ Affiliate ของ MemberMouse อยู่ที่ประมาณ 25% ของยอดซื้อครั้งแรกของแพลน MemberMouse ซึ่งราคาอยู่ระหว่างประมาณ 149.50 ถึง 349.50 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี หรือประมาณ 5,230 ถึง 12,230 บาท
รายละเอียดสำคัญ
- ค่าคอมมิชชั่น 25% จากยอดซื้อครั้งแรกของแพลน MemberMouse
- การจ่ายเงินผ่าน PayPal เดือนละครั้ง
- ระยะเวลาคุกกี้ 90 วัน
10. Fiverr

กลุ่ม Affiliate: บริการฟรีแลนซ์
Fiverr เป็นตลาดสำหรับบริการฟรีแลนซ์ดิจิทัล ตั้งแต่การเขียนคำโฆษณาไปจนถึงการพัฒนาเว็บไซต์ แพลตฟอร์มมีผลิตภัณฑ์หลายอย่าง เช่น Fiverr Business, Fiverr Pro และ Fiverr Learn
พันธมิตร Fiverr จะได้รับค่าคอมมิชชั่นที่แตกต่างกันตามผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาเลือกโปรโมต ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่เสนอเปอร์เซ็นต์สูงจากคำสั่งซื้อแรก รวมถึง 10% ของการซื้อเพิ่มเติมใดๆ ที่ทำใน 12 เดือนถัดไป
รายละเอียดสำคัญ
- โครงสร้างค่าคอมมิชชั่นที่หลากหลาย ได้แก่ อัตราคงที่ การแบ่งรายได้ หรือแบบผสม
- การชำระเงินรายเดือนผ่าน PayPal การโอนเงิน บัตรรายได้ Fiverr หรือ Payoneer
- ระยะเวลาคุกกี้: 30 วันนับจากการคลิกครั้งแรก
11. Semrush

กลุ่ม Affiliate: เครื่องมือการตลาด
Semrush Semrush เป็นเครื่องมือสำหรับการทำ SEO สำหรับนักการตลาดออนไลน์ มีผู้ใช้งานมากกว่า 10 ล้านคน รวมถึงประมาณ 30% ของบริษัทใน Fortune 500
โปรแกรม Affiliate ของ Semrush จัดการผ่านแพลตฟอร์ม Impact สำหรับ Affiliate ใหม่ Semrush ให้ค่าคอมมิชชั่นประมาณ 1,750 ถึง 7,000 บาทโดยประมาณ ต่อการซื้อชุดเครื่องมือ Semrush และค่าคอมมิชชั่นเล็กน้อยสำหรับการสมัครทดลองใช้ เมื่อทำยอดขายมากขึ้น จะได้เลื่อนระดับ Affiliate และได้รับค่าคอมมิชชั่นต่อยอดขายสูงขึ้น รวมถึงอาจได้รับโบนัสจากเนื้อหาของคุณ
รายละเอียดสำคัญ
- ค่าคอมมิชชั่นประมาณ 1,750 ถึง 12,250 บาทโดยประมาณ ต่อการสมัครสมาชิก และประมาณ 350 บาทโดยประมาณ ต่อการสมัครทดลองใช้
- จ่ายเงินผ่านการโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์หรือ PayPal หลังจากครบ 21 วันของช่วงล็อก
- ระยะเวลาคุกกี้ 120 วัน
12. Kinsta

กลุ่ม Affiliate: การโฮสต์เว็บไซต์
Kinsta ขายแผนโฮสติ้งแบบจัดการสำหรับเว็บไซต์ WordPress โปรแกรมแนะนำลูกค้าระดับค่าคอมสูงของ Kinsta ให้พันธมิตร Affiliate มีโอกาสได้รับค่าคอมมิชชั่นประมาณ 17,500 บาทโดยประมาณ สำหรับการแนะนำลูกค้าแผนรายปี และได้รับค่าคอมมิชชั่นรายเดือนประมาณ 10% ของค่าบริการแผนรายเดือน ตราบเท่าที่ลูกค้ายังคงใช้บริการ Kinsta ซึ่งแผนราคาอยู่ระหว่างประมาณ 1,225 ถึง 11,900 บาทต่อเดือน
รายละเอียดสำคัญ:
- ค่าคอมมิชชั่นเริ่มต้นสูงสุดประมาณ 17,500 บาทโดยประมาณ ค่าคอมมิชชั่นรายเดือนประมาณ 10% ของค่าบริการแผนรายเดือน
- จ่ายเงินผ่าน PayPal ทันทีที่ลิงก์ของคุณเกิดคอนเวอร์ชัน
- ระยะเวลาคุกกี้ 60 วัน
13. Spocket

กลุ่ม Affiliate: การดรอปชิป
Spocket เป็นตลาดดรอปชิประดับโลกที่เชื่อมโยงผู้ขายกับผู้จัดหาผลิตภัณฑ์ทั่วสหรัฐอเมริกา ยุโรป อินเดีย และอเมริกาใต้ ผู้ค้า Shopify สามารถใช้แอป Spocket เพื่อแสดงและขายผลิตภัณฑ์จากผู้จัดหาของ Spocket ได้
โปรแกรมพันธมิตรที่มีราคาสูงเสนอค่าคอมมิชชั่นที่เกิดขึ้นซ้ำสูงสุด 30% ของค่าธรรมเนียมรายเดือนของการแนะนำ ช่วยให้พันธมิตรสามารถทำเงินได้สูงสุดประมาณ 32,000 บาทต่อผู้ใช้ต่อปี Spocket ยังจัดการแข่งขันพันธมิตรประจำเดือนเพื่อรับเงินสดเพิ่มเติมและให้ทรัพยากรการตลาดเพื่อช่วยพันธมิตรในการโฆษณา
รายละเอียดสำคัญ
- ค่าคอมมิชชั่นที่เกิดขึ้นซ้ำรายเดือนตราบใดที่ลูกค้าใช้ Spocket
- การชำระเงินรายเดือนผ่าน PayPal หรือ Stripe
- ระยะเวลาคุกกี้: 90 วัน
14. Google Workspace

กลุ่ม Affiliate: SaaS
โปรแกรมพันธมิตร Google Workspace ให้รางวัลแก่พันธมิตรสำหรับการแนะนำธุรกิจไปยัง Gmail, Google Meet, Drive และแอปอื่นๆ ของ Workspace
การจ่ายเงินจะขึ้นอยู่กับผู้ใช้ และบัญชีธุรกิจหลายบัญชีรวมถึงผู้ใช้หลายสิบคน ซึ่งหมายความว่าค่าคอมมิชชั่นที่มีราคาสูง ตัวอย่างเช่น การแนะนำ Business Plus ของลูกค้าที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาที่มีผู้ใช้ 10 คนจะส่งผลให้มีค่าคอมมิชชั่นประมาณ 8,000 บาท
รายละเอียดสำคัญ
- ค่าคอมมิชชั่นจะขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ใช้และแตกต่างกันไปตามสถานที่ของลูกค้า
- รับสูงสุด 800 บาทต่อผู้ใช้ สูงสุด 300 ผู้ใช้
- ระยะเวลาคุกกี้: 60 วัน
15. Villiers

กลุ่ม Affiliate: การเดินทางหรูหรา
Villiers เป็นเครือข่ายเครื่องบินเช่าเหมาลำที่มีเครื่องบินส่วนตัวมากกว่า 10,000 ลำ บินไปยังจุดหมายปลายทาง 40,000 แห่ง แพลตฟอร์มนี้ช่วยให้ผู้ใช้เปรียบเทียบราคาและจองเที่ยวบิน
สำหรับบล็อกเกอร์การเดินทาง การเป็นพันธมิตรกับโปรแกรมพันธมิตรที่มีราคาสูงของ Villiers นำเสนอศักยภาพในการทำเงินหลายพันเมื่อการแนะนำจองเที่ยวบิน รวมถึงค่าคอมมิชชั่นที่เกิดขึ้นซ้ำสำหรับการจองในอนาคต ตามข้อมูลของ Villiers พันธมิตรที่ประสบความสำเร็จสามารถทำเงินได้มากกว่า 150,000 บาทต่อเดือนโดยประมาณ
รายละเอียดสำคัญ
- ค่าคอมมิชชั่น 30% สำหรับเที่ยวบินที่จองทุกเที่ยว รวมถึงการจองการแนะนำในอนาคต
- การชำระเงินจะทำภายใน 14 วันหลังจากการเสร็จสิ้นเที่ยวบินผ่าน PayPal หรือการโอนเงิน
- ระยะเวลาคุกกี้: 365 วัน
วิธีเริ่มต้นการตลาดแบบพันธมิตรที่มีราคาสูง
นี่คือขั้นตอนพื้นฐานในการสร้างผู้ชม ร่วมมือกับแบรนด์ และแนะนำลูกค้าสำหรับการขายที่มีราคาสูง
1. สร้างกลุ่มผู้ติดตามที่เกี่ยวข้องและมีส่วนร่วม
โปรแกรม Affiliate แบบค่าคอมสูงส่วนใหญ่จะต้องสมัครก่อน เพราะบริษัทต้องการมั่นใจว่าคุณมีกลุ่มผู้ติดตามที่เกี่ยวข้องและมีส่วนร่วมก่อนจะร่วมงานด้วย
เริ่มต้นด้วยการสร้างพื้นที่ออนไลน์เพื่อเผยแพร่เนื้อหาและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย อาจเป็นช่อง YouTube พอดแคสต์ บัญชีโซเชียลมีเดีย หรือบล็อก ซึ่งคุณสามารถสร้างได้ด้วยเครื่องมือสร้างเว็บไซต์อย่าง Shopify ในการทำตลาด Affiliate ค่าคอมสูง ขนาดของผู้ติดตามไม่ได้สำคัญเท่ากับคุณภาพของการมีปฏิสัมพันธ์ สำคัญที่ต้องมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายที่ไว้วางใจคำแนะนำของคุณและมองว่าคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญในสายงานนั้น
ตัวอย่างเช่น พอดแคสต์เกี่ยวกับเรือยอชท์ที่พูดถึงสินค้าล่าสุดและข่าวสารในวงการ อาจมีผู้ฟังแค่ไม่กี่ร้อยคนต่อเทป แต่เพราะคุณสร้างความไว้วางใจในกลุ่มนี้ได้ (แม้ว่าจะเล็ก) คุณก็อาจเป็นพันธมิตรที่น่าสนใจสำหรับโปรแกรม Affiliate ค่าคอมสูงในวงการเรือ
2. สมัครเข้าร่วมโปรแกรม Affiliate
เมื่อคุณสร้างฐานผู้ติดตามในกลุ่มเป้าหมายที่เลือกได้แล้ว ให้เริ่มสำรวจโปรแกรม Affiliate ค่าคอมสูงที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการในกลุ่มนั้น บางครั้งนัก Affiliate อาจเลือกกลุ่มเป้าหมายตามโปรแกรม Affiliate ที่มีอยู่ เป้าหมายคือการหาความสัมพันธ์ที่ลงตัวระหว่างเนื้อหาของคุณ ความสนใจของผู้ชม และสินค้ามูลค่าสูงที่คุณสามารถโปรโมตผ่านโปรแกรม Affiliate ได้
เมื่อเลือกโปรแกรม Affiliate ให้ประเมินโครงสร้างค่าคอมมิชชั่นอย่างรอบคอบ เช่น มีการจ่ายครั้งเดียวหรือจ่ายแบบต่อเนื่องซึ่งช่วยสร้างรายได้แบบพาสซีฟในระยะยาวได้หรือไม่
รวบรวมรายชื่อสินค้าหรือบริการ Affiliate ที่จะนำเสนอในเนื้อหาของคุณ รวมถึงสินค้าที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับผู้ชม และสินค้าที่เกี่ยวข้องหรือเสริม เช่น หากคุณมีช่อง YouTube ด้านฟิตเนส คุณอาจเน้นรีวิวอุปกรณ์ออกกำลังกายระดับพรีเมียม พร้อมกับโปรโมตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหรือคอร์สฟิตเนสเพื่อเพิ่มรายได้
ควรสมัครโปรแกรม Affiliate หลายโปรแกรม เพื่อให้คุณมีสินค้าหลากหลายให้โปรโมต และช่วยให้คุณมีโอกาสต่อรองเงื่อนไขค่าคอมมิชชั่นที่ดียิ่งขึ้นเมื่อฐานผู้ติดตามเติบโตขึ้น
เมื่อแพลตฟอร์มของคุณได้รับความนิยมในหมู่แบรนด์ บริษัทต่าง ๆ อาจพร้อมเสนอดีลพิเศษหรืออัตราค่าคอมมิชชั่นที่สูงขึ้นเพื่อแลกกับการวางลิงก์ Affiliate ในตำแหน่งที่โดดเด่น
3. สร้างเนื้อหาที่ละเอียดและตรงไปตรงมา
เมื่อสร้างเนื้อหา Affiliate ให้เน้นความชัดเจนและซื่อสัตย์ ไม่ว่าคุณจะเขียนรีวิวสินค้าแบบละเอียด หรือแทรกการพูดถึงสินค้าในเนื้อหาที่กว้างกว่า ควรแบ่งปันความคิดเห็นจริงของคุณเสมอ
รีวิวอย่างละเอียดควรแสดงทั้งข้อดีและข้อเสียของสินค้า เช่น หากคุณรีวิวแล็ปท็อประดับพรีเมียม ให้ชมในเรื่องพลังประมวลผลที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเล่นเกม แต่ก็อย่าลืมพูดถึงจุดด้อย เช่น พกพายากหรือแบตเตอรี่อยู่ได้ไม่นาน วิธีนี้ช่วยให้ผู้ชมมั่นใจว่าคุณรีวิวอย่างตรงไปตรงมา
โปร่งใสเรื่องความสัมพันธ์กับ Affiliate เสมอ แจ้งให้ผู้ชมทราบอย่างชัดเจนว่าลิงก์ในเนื้อหาเป็นลิงก์ Affiliate และคุณอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นจากการซื้อของพวกเขา ซึ่งเป็นข้อกำหนดทางกฎหมาย ข้อความแจ้งอาจสั้น ๆ เช่น “เราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่นจากสินค้าที่แนะนำในบทความนี้” หรือจะเพิ่มความมั่นใจว่าเนื้อหาของคุณเป็นกลาง เช่น “สินค้าทุกชิ้นได้รับการเลือกและรีวิวอย่างเป็นธรรม”
4. ใช้รูปแบบเนื้อหาหลากหลาย
การนำเสนอเนื้อหา Affiliate ในหลากหลายรูปแบบจะช่วยให้เข้าถึงลูกค้าได้กว้างขึ้น ไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบอ่านบทความยาว บางคนอาจชอบดูวิดีโอสั้น ๆ หรือชอบดูอินโฟกราฟิกแทน
การโพสต์ผ่านช่องทางการตลาดหลายช่องทางช่วยขยายกลุ่มผู้ชม แม้จะใช้เนื้อหาเดียวกันแต่ปรับแต่งให้เหมาะกับแต่ละช่องทาง เช่น คนหนึ่งอาจชอบใช้อินสตาแกรมอย่างหนัก ในขณะที่อีกคนอาจชอบอ่านบล็อกมากกว่า
5. นำค่าคอมมิชชั่นแรกกลับมาลงทุนใหม่
อาจต้องใช้เวลาสักพักก่อนที่คุณจะเห็นรายได้จากค่าคอมมิชชั่น Affiliate อย่างสม่ำเสมอ เมื่อคุณเริ่มได้รับค่าคอมมิชชั่นครั้งแรก ลองพิจารณานำรายได้นั้นมาลงทุนใหม่เพื่อช่วยให้ธุรกิจเติบโต
ถ้าการเข้าชมส่วนใหญ่ของคุณมาจากเครื่องมือค้นหา ลองนำรายได้ Affiliate ไปลงทุนกับการทำ SEO ของเว็บไซต์ เพื่อช่วยเพิ่มการเข้าชมบล็อกของคุณ และสร้างยอดค่าคอมมิชชั่นที่มากขึ้น
ถ้าคุณพึ่งพาสื่อสังคมออนไลน์มากกว่า การลงทุนกับโฆษณาที่เจาะจงกลุ่มเป้าหมายเป็นวิธีที่ดีในการขยายการเข้าถึง แพลตฟอร์มอย่าง Facebook และ Instagram ช่วยให้คุณส่งโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ เพิ่มยอดคลิกและยอดขายได้
เปรียบเทียบการตลาดแบบ Affiliate ค่าคอมสูง กับ การตลาดแบบ Affiliate ค่าคอมต่ำ
การตลาดแบบ Affiliate ค่าคอมสูง แตกต่างจากแบบค่าคอมต่ำ ดังนี้
- สินค้าที่มีราคาแพงกว่า
- ศักยภาพในการทำกำไรที่สูงขึ้น
- การแข่งขันที่มากขึ้น
- การขายในตลาดธุรกิจเฉพาะ
- การสร้างชื่อเสียงในฐานะผู้เชี่ยวชาญในตลาดเฉพาะของคุณ
การเข้าร่วมโปรแกรม Affiliate ค่าคอมสูงบางโปรแกรมอาจท้าทาย เพราะบริษัทมักเลือกพันธมิตรอย่างเข้มงวด บริษัทส่วนใหญ่ที่มีโปรแกรมค่าคอมสูงต้องการให้คุณมีผู้ชมที่มีส่วนร่วมในตลาดธุรกิจของพวกเขาก่อนที่จะเลือกเป็นพันธมิตร
ในทางกลับกัน โปรแกรม Affiliate ค่าคอมต่ำอย่าง Amazon Associates มักมีเกณฑ์การเข้าร่วมที่ต่ำกว่า หากคุณมีผู้ติดตามที่ไว้วางใจคำแนะนำสินค้าของคุณและไม่มีตลาดเฉพาะเจาะจง โปรแกรม Affiliate ค่าคอมต่ำอาจเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการสร้างรายได้จาก Affiliate
อาจทำให้การสร้างค่าคอมมิชชั่นที่มีมูลค่าสูงจากการตลาดแบบพันธมิตรที่มีราคาต่ำทำได้ง่ายขึ้น
ข้อดีและข้อเสียของการเลือกโปรแกรม Affiliate ค่าคอมสูง
ข้อดีและข้อเสียเหล่านี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าการตลาดแบบ Affiliate ค่าคอมสูงเหมาะกับเป้าหมายของคุณหรือไม่
ข้อดี
- ค่าคอมมิชชั่นที่สูงขึ้น: พันธมิตรทำเงินได้มากขึ้นต่อการขาย ซึ่งสามารถเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นรายได้ที่สำคัญ
- การขายที่น้อยลง: เนื่องจากค่าคอมมิชชั่นต่อการขายที่สูงขึ้น พันธมิตรไม่จำเป็นต้องขายผลิตภัณฑ์มากนักเพื่อสร้างรายได้ที่ดี
- การตลาดที่มุ่งเน้น: ความพยายามทางการตลาดที่มุ่งเป้าไปที่กลุ่มผู้ชมเฉพาะที่มีแนวโน้มจะซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีราคาแพง
- ค่าชีวิตของลูกค้าที่สูงขึ้น: โปรแกรมที่มีราคาสูงมักจ่ายค่าคอมมิชชั่นให้กับพันธมิตรสำหรับการขายในอนาคต สร้างรายได้ที่ยั่งยืนจากการแนะนำเพียงครั้งเดียว
ข้อเสีย
- ความคาดหวังของลูกค้าที่สูงขึ้น: ผู้ซื้อที่ใช้จ่ายเงินจำนวนมากคาดหวังคำแนะนำและวัสดุการตลาดที่มีคุณภาพสูงกว่า
- ความลังเลของลูกค้ามากขึ้น: ราคาที่สูงขึ้นอาจทำให้เกิดวงจรการขายที่ยาวนานขึ้นและรถเข็นที่ถูกละทิ้ง มากขึ้น เนื่องจากลูกค้าใช้เวลาตัดสินใจว่าจะซื้อหรือไม่
- ต้องรู้ลึก: นักการตลาดต้องเข้าใจคุณสมบัติและประโยชน์ที่ซับซ้อนเพื่อโปรโมตสินค้าที่มีราคาสูงอย่างมีประสิทธิภาพ
- ข้อจำกัดของตลาด: กลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพสำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีราคาแพงมีขนาดเล็กกว่า ซึ่งอาจจำกัดโอกาสในการขาย
สร้างค่าคอม Affiliate ที่สูงขึ้นด้วยการขายที่น้อยลง
ไม่ว่าคุณจะเพิ่งเริ่มต้นทำการตลาดแบบ Affiliate หรือมีประสบการณ์มานาน การหาโปรแกรม Affiliate ค่าคอมสูงที่เหมาะสมกับคุณสามารถช่วยเพิ่มรายได้ของคุณได้อย่างมาก
สินค้าค่าคอมสูง เมื่อสอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ จะช่วยเพิ่มรายได้อย่างมีนัยสำคัญและส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจการตลาดแบบ Affiliate ของคุณ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโปรแกรม Affiliate ค่าคอมสูง
ตัวอย่างของการตลาดแบบ Affiliate ค่าคอมสูงคืออะไร
ตัวอย่างหนึ่งของการตลาดแบบ Affiliate ค่าคอมสูงคือ โปรแกรม Affiliate ของ Shopify ที่ให้ค่าคอมสูงสุดประมาณ 5,250 บาท สำหรับการแนะนำผู้สมัครสมาชิกแพลน Shopify และการซื้ออุปกรณ์จุดขาย (POS)
ใครคือคนทำ Affiliate แล้วได้รับค่าคอมสูงสุด
Pat Flynn เจ้าของบล็อก Smart Passive Income ถือเป็นคนทำ Affiliate ที่ได้รับค่าคอมสูงสุด โดยเขาเปิดเผยว่าได้รับรายได้จากการตลาดแบบ Affiliate มากกว่า 122 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2010
โปรแกรมการตลาด Affiliate ค่าคอมสูงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดมีอะไรบ้าง
โปรแกรม Affiliate ค่าคอมสูงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดมีดังนี้
- Shopify
- WP Engine
- Liquid Web
- HubSpot
- Authority Hacker
- Fiverr
- Spocket
ใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะเริ่มทำเงินจากการตลาดแบบ Affiliate ค่าคอมสูงได้
ระยะเวลาที่จะเริ่มทำเงินจากการตลาดแบบ Affiliate ค่าคอมสูงขึ้นอยู่กับขนาดและความมีส่วนร่วมของผู้ติดตามที่คุณมีอยู่แล้ว ถ้าคุณมีผู้ติดตามจำนวนมากในกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับสินค้าที่คุณโปรโมท คุณอาจเริ่มทำเงินได้ทันที แต่ถ้าคุณต้องสร้างผู้ติดตามใหม่ อาจใช้เวลาหลายเดือนหรือมากกว่าหนึ่งปี เพื่อสร้างรายได้จากการแนะนำอย่างสม่ำเสมอ