ไม่ว่าคุณจะมีไอเดียเล็กๆ ที่น่าจะเปลี่ยนโลก (หรือแค่เปลี่ยนโรงเรียนให้เจ๋งขึ้น) การเริ่มต้นทำธุรกิจตั้งแต่วัยเด็กคือหนึ่งในทางเลือกที่น่าตื่นเต้นที่สุดในยุคนี้ ถึงจะอายุต่ำกว่า 18 ปี แต่ก็มีโอกาสเปลี่ยนแนวคิดให้กลายเป็นธุรกิจจริงได้ โดยเฉพาะถ้ามีพ่อแม่หรือผู้ปกครองที่พร้อมสนับสนุน
ข่าวดีคือ เด็กและวัยรุ่นสามารถจัดการงานต่างๆ ของธุรกิจได้ด้วยตนเองในหลายด้าน เช่น การขาย การทำคอนเทนต์ หรือการรับออร์เดอร์ ส่วนผู้ปกครองจะช่วยดูแลเรื่องกฎหมาย การเงินหรือบัญชี ทำให้การเริ่มต้นธุรกิจสำหรับเด็ก ไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่หลายคนคิด เพราะเด็กเริ่มต้นธุรกิจเร็ว ยิ่งเรียนรู้เร็ว และมีโอกาสสร้างรายได้ตั้งแต่วัยเรียน ไม่ว่าจะเป็นเงินเก็บสำหรับซื้อของที่อยากได้ หรือสะสมไว้ใช้ตอนเข้ามหาวิทยาลัย
บทความนี้รวมคำแนะนำจากนักธุรกิจรุ่นเยาว์ที่เริ่มต้นตั้งแต่วัยเด็ก พวกเขาจะแชร์แนวทางและเหตุผลว่าทำไม การเริ่มต้นธุรกิจตั้งแต่วัยเด็ก ถึงคุ้มค่าและไม่ควรรอ
ทำไมควรเริ่มทำธุรกิจตั้งแต่วัยเด็ก
- การลองผิดลองถูก ทำได้ง่ายกว่าตอนยังเด็ก
- คุณจะไม่มีเวลาว่างแบบนี้อีกแล้ว
- คุณมีลูกค้ากลุ่มแรกอยู่รอบตัว
- เข้าถึงแหล่งสนับสนุนและทรัพยากรฟรี
- ทักษะที่เรียนรู้ตอนนี้จะเป็นประโยชน์ในอนาคต
- สร้างรายได้เสริมไว้ใช้หรือเก็บเป็นทุนเรียนต่อ
การเริ่มทำธุรกิจในช่วงวัยเรียนมีประโยชน์มากมาย ไม่เพียงแต่สนุก แต่ยังเป็นโอกาสในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่จะต่อยอดในอนาคตของคุณได้จริง
การลองผิดลองถูก ทำได้ง่ายกว่าตอนยังเด็ก
การเริ่มต้นธุรกิจไม่ว่าจะอายุเท่าไรล้วนมีความเสี่ยง แต่สำหรับเด็กที่ยังอาศัยอยู่กับพ่อแม่ ความเสี่ยงนั้นน้อยกว่ามาก
เมื่อล้มเหลวในช่วงวัยนี้ คุณยังมีเวลาเหลืออีกมากในการลุกขึ้นใหม่และลองอีกครั้ง
“การเริ่มธุรกิจไม่ว่าจะเป็นแบบไหน มีอะไรที่คุณไม่รู้เยอะมาก และวิธีเรียนรู้ให้เร็วที่สุดคือการลองทำหลายๆ อย่าง”
— Nick Mares, ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์น้ำซุปกระดูก Kettle & Fire กับพี่ชายตั้งแต่วัยรุ่น
“การลองผิดพลาดไม่ใช่เรื่องที่ต้องกลัว ล้มให้เร็ว แล้วคุณจะได้เรียนรู้เร็วกว่าใคร”
คุณจะไม่มีเวลาว่างแบบนี้อีกแล้ว
แม้ว่าชีวิตวัยเรียนจะเต็มไปด้วยตารางเรียน กีฬา และกิจกรรมต่าง ๆ แต่อย่าลืมว่าเมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ เวลาจะยิ่งน้อยลงไปอีก ตอนนี้คุณยังไม่มีภาระเรื่องค่าใช้จ่ายหรือความรับผิดชอบที่หนักมาก นี่แหละคือช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดในการลงมือเริ่มธุรกิจ
“เราเริ่มทำธุรกิจตอนอายุ 16 ตอนอยู่มัธยม ทุกอย่างยังค่อนข้างจัดการง่าย” — LeiLei Secor ผู้เปลี่ยนงานอดิเรกอย่างการทำเครื่องประดับให้กลายเป็นธุรกิจ
“พอเข้ามหาวิทยาลัย เราก็แบ่งเวลาทำธุรกิจเหมือนงานพาร์ตไทม์ทั่วไป แค่จองเวลาไว้ทุกสัปดาห์เพื่อจัดการออร์เดอร์”

คุณมีลูกค้ากลุ่มแรกอยู่รอบตัว
เพื่อนร่วมชั้นคือกลุ่มเป้าหมายที่ดีเยี่ยมในการทดลองสินค้า และโรงเรียนก็เป็นเครือข่ายที่เหมาะสำหรับการเริ่มต้นสร้างการรับรู้แบบปากต่อปาก เด็กทำธุรกิจสามารถใช้ชีวิตประจำวันและประสบการณ์ของตัวเองในการสร้างสินค้า หรือบริการที่ตอบโจทย์เพื่อนในวัยเดียวกันได้โดยตรง
Carson Kropfl คิดค้นสเกตบอร์ดขนาดเล็กที่ใส่ในล็อกเกอร์ได้ ตั้งแต่อายุ 11 “เราเริ่มขาย Locker Board ที่โรงเรียน ราคาแผ่นละประมาณ 700 บาท แล้วก็เปิดบัญชี Instagram โพสต์วิดีโอขี่ไปโรงเรียนแล้วเก็บใส่ล็อกเกอร์”
“ตื่นเช้ามามีคนติดตามจากศูนย์เป็น 300 กว่าคน แม่กับผมก็รีบทำเว็บไซต์ แล้วเริ่มขายออนไลน์เลย”
เข้าถึงแหล่งสนับสนุนและทรัพยากรฟรี
หลังจากเรียนจบ การเรียนรู้มักมีค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นการเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย หรือสมัครคอร์สสอนทำธุรกิจ
แต่ในช่วงวัยเรียน เราสามารถใช้ทรัพยากรที่โรงเรียนมีให้ได้ฟรี โดยเฉพาะคนที่อยากเริ่มต้นทำธุรกิจตั้งแต่วัยเด็ก
สำหรับเด็กทำธุรกิจ โรงเรียนสามารถเป็นแหล่งสนับสนุนที่ทรงพลัง เช่น
- ห้องทดลองและอุปกรณ์เทคโนโลยี
- ห้องคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์
- เครื่องมือจากห้องศิลปะหรือช่างฝีมือ
- คำแนะนำจากครูแนะแนว ครูประจำวิชา หรือแม้แต่เพื่อนร่วมชั้น
การใช้ทรัพยากรเหล่านี้จะช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่าย และมีโอกาสเรียนรู้จากคนรอบตัวที่พร้อมจะช่วยเหลือ

ทักษะที่เรียนรู้ตอนนี้จะเป็นประโยชน์ในอนาคต
เจ้าของธุรกิจมักจะได้เรียนรู้หลายอย่างในปีแรกของการเริ่มต้น เพราะต้องทำหลายหน้าที่ในเวลาเดียวกัน ทั้งขายสินค้า พัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการลูกค้า เด็กทำธุรกิจก็เช่นเดียวกัน การเริ่มต้นตั้งแต่อายุน้อยจะช่วยฝึกให้เราเรียนรู้ทักษะชีวิตที่สำคัญมากในอนาคต
ไม่ว่าจะเป็นการจัดการเวลา การสื่อสาร การรับมือกับปัญหา หรือแม้แต่การปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ — ทั้งหมดนี้คือทักษะที่อยู่เหนือห้องเรียน
“การพิสูจน์ว่าตัวเองเคยผ่านการสร้างธุรกิจจริง เคยหารายได้ด้วยตัวเอง มันมีคุณค่าอย่างมาก” — Tucker Schreiber, ผู้ประกอบการต่อเนื่อง และอดีต CEO ของ Combo
“บางครั้งประสบการณ์แบบนี้มีค่ายิ่งกว่ากระดาษใบหนึ่งที่บอกว่าเรียนจบจากที่ไหน”
สร้างรายได้เสริมไว้ใช้หรือเก็บเป็นทุนเรียนต่อ
งานอดิเรกหลายอย่างสามารถต่อยอดเป็นธุรกิจสำหรับเด็กได้ง่ายกว่าที่คิด เราสามารถเปลี่ยนความรักสัตว์ให้กลายเป็นบริการพาสุนัขเดินเล่นในหมู่บ้าน หรือเปลี่ยนความถนัดด้านเย็บผ้าให้กลายเป็นแบรนด์เสื้อผ้าออนไลน์
เด็กทำธุรกิจไม่เพียงแค่ได้ฝึกทักษะใหม่ ๆ แต่ยังสร้างรายได้จากสิ่งที่เราชอบอยู่แล้ว จะเก็บเงินไว้ซื้อของที่อยากได้ หรือเก็บสะสมไว้ใช้จ่ายตอนเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับว่าเราจัดการธุรกิจของตัวเองอย่างไร
การมีธุรกิจเล็ก ๆ ตั้งแต่วัยเรียนยังเป็นจุดเริ่มต้นของความเป็นอิสระทางการเงิน ที่จะเป็นประโยชน์กับเราในระยะยาว
วิธีเริ่มต้นทำธุรกิจให้สำเร็จตั้งแต่วัยเด็ก
ลองทำตาม 10 ขั้นตอนด้านล่างนี้ เพื่อเริ่มต้นธุรกิจของคุณเองก่อนอายุ 18
- ขออนุญาตจากพ่อแม่หรือผู้ปกครอง
- หาและเช็คความเป็นไปได้ของไอเดีย
- ตัดสินใจว่าจะใช้เงินทุนจากไหน
- ตั้งราคาสินค้าหรือบริการให้เหมาะสม
- เขียนแผนธุรกิจ
- วางระบบธุรกิจร่วมกับผู้ปกครอง
- สร้างร้านค้าออนไลน์
- สร้างบัญชีโซเชียลมีเดีย
- ทำการตลาดและขายสินค้า/บริการ
- บริหารจัดการเรื่องการเงิน

ด้วยความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ ให้ทำตามขั้นตอนห้าข้อนี้เพื่อเริ่มธุรกิจของคุณก่อนที่คุณจะอายุ 18 ปี
1. ขออนุญาตจากพ่อแม่หรือผู้ปกครอง
ก่อนจะเริ่มเขียนแผนธุรกิจหรือออกแบบโลโก้ สิ่งแรกที่ต้องทำคือขอความเห็นชอบจากพ่อแม่หรือผู้ปกครอง
เพราะคนกลุ่มนี้จะต้องรับหน้าที่ร่วมลงชื่อในเอกสารสำคัญ เช่น สัญญา การเปิดบัญชีการเงิน หรือแม้แต่การสมัครใช้งานแพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์ นอกจากนี้ หากยังไม่ถึงเกณฑ์อายุที่กำหนดในโซเชียลมีเดียบางแพลตฟอร์ม พ่อแม่อาจต้องเป็นผู้สมัครบัญชีและคอยดูแลกิจกรรมบนแพลตฟอร์มนั้นด้วย การมีผู้ใหญ่คอยสนับสนุนตั้งแต่เริ่มต้น จะช่วยให้เส้นทางของเด็กทำธุรกิจราบรื่นและปลอดภัยยิ่งขึ้น
2. หาและเช็คความเป็นไปได้ของไอเดีย

ไอเดียสามารถเกิดขึ้นได้จากทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาที่เราเจอในชีวิตประจำวัน มุมมองใหม่ ๆ ของสินค้าที่มีอยู่ หรืออะไรที่สร้างสรรค์ขึ้นมาเอง การเริ่ม “สมุดไอเดีย” หรือ “สมุดจดธุรกิจ” จะช่วยให้เรารวบรวมความคิดไว้ และกลับมาใช้ต่อได้ในอนาคต
“ไม่ว่าไอเดียจะเล็กแค่ไหนก็จดไว้ เพราะวันหนึ่งมันอาจกลายเป็นจุดเริ่มของธุรกิจใหญ่” — Maya’s Ideas เริ่มธุรกิจของตัวเองตั้งแต่อายุ 8 ปี
ตัวอย่างธุรกิจสำหรับเด็ก
- ตัดหญ้าในหมู่บ้าน
- ติวหนังสือให้เด็กเล็ก
- รับเก็บขยะรีไซเคิล
- เขียนหนังสือเด็ก
- ทำชุดแฟนซี
- รีเซลสินค้า
3. ตัดสินใจว่าจะใช้เงินทุนจากไหน
ธุรกิจบางประเภทอาจเริ่มได้โดยไม่ต้องใช้เงินมาก แต่บางอย่างก็ต้องใช้เงินลงทุนเริ่มต้น ลองถามตัวเองว่าเรามีเงินเก็บจากค่าขนมหรือการรับจ้างไหม? พ่อแม่ช่วยสนับสนุนได้ไหม? หรือมีทุนการศึกษาที่สามารถขอได้หรือเปล่า?
ยกตัวอย่างเช่น หากอยากขายตุ๊กตาถักในตลาดนัด แม้จะมีอุปกรณ์ครบแล้ว แต่ยังขาดป้ายร้าน เราอาจเลือกทำเองจากกระดาษโปสเตอร์หรือสั่งพิมพ์เพื่อใช้นาน ๆ รายการต้นทุนควรรวมค่าใช้จ่ายตรงนี้ไว้ด้วย
4. ตั้งราคาสินค้าหรือบริการให้เหมาะสม

การตั้งราคาอาจดูยาก แต่ถ้ามีข้อมูลและใช้เครื่องมือช่วย ก็จะทำได้ง่ายขึ้น เริ่มจากดูคู่แข่งว่าขายสินค้า/บริการคล้าย ๆ กันในราคาเท่าไหร่ ถ้าเราทำได้คุณภาพใกล้เคียง ก็อาจตั้งราคาพอ ๆ กันได้
สิ่งที่ควรพิจารณา
- ต้นทุนผันแปร: วัตถุดิบ ค่าจัดส่ง ฯลฯ
- ต้นทุนคงที่: เช่น ค่าพื้นที่ ค่าบริการรายเดือน
- กำไรที่ต้องการ: ใช้เครื่องคิดกำไรของ Shopify เพื่อคำนวณเปอร์เซ็นต์ได้
หากไม่มั่นใจ ให้ลองขอคำแนะนำจากผู้ปกครองหรือผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์
5. เขียนแผนธุรกิจ
แผนธุรกิจคือแผนที่นำทางธุรกิจ ช่วยให้เราวางเป้าหมายและแนวทางการเติบโตอย่างมีทิศทาง องค์ประกอบหลัก ได้แก่
-
พันธกิจของธุรกิจ: จุดมุ่งหมายและค่านิยม
- สินค้าและบริการ: รายละเอียดสิ่งที่ขาย พร้อมราคาตั้งต้น
-
แผนการตลาด: วิธีการโปรโมตสินค้า
- แผนการเงิน: แหล่งเงินทุน รายรับคาดการณ์ และค่าใช้จ่าย
สามารถใช้เทมเพลตแผนธุรกิจฟรีจาก Shopify เพื่อเริ่มต้นได้

6.วางระบบธุรกิจร่วมกับผู้ปกครอง
สำหรับเยาวชนที่ต้องการเริ่มต้นทำธุรกิจ การมีผู้ปกครองเป็นผู้ให้การสนับสนุนในขั้นตอนสำคัญต่างๆ ถือเป็นปัจจัยที่ไม่อาจมองข้าม โดยเฉพาะในด้านข้อกฎหมายและการดำเนินธุรกรรมทางการเงิน เนื่องจากบุคคลที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะตามกฎหมายไทย ไม่สามารถลงนามในเอกสารทางธุรกิจหรือเปิดบัญชีธนาคารประเภทธุรกิจได้ด้วยตนเอง
แพลตฟอร์มต่างๆ เช่น เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซหรือโซเชียลมีเดียส่วนใหญ่ มักกำหนดอายุขั้นต่ำสำหรับการสมัครใช้งานในเชิงพาณิชย์ การมีผู้ปกครองเป็นผู้ดำเนินการในส่วนนี้จะช่วยให้สามารถเปิดร้านค้าออนไลน์หรือบัญชีเพื่อการขายได้อย่างถูกต้องตามเงื่อนไขการให้บริการ
นอกจากนี้ การบริหารจัดการด้านการเงินในธุรกิจของเยาวชน ควรอยู่ภายใต้การดูแลร่วมกันกับผู้ปกครอง เช่น การเปิดบัญชีธนาคารร่วม การวางระบบบัญชีรายรับรายจ่าย ตลอดจนการวางแผนภาษีอย่างเหมาะสม สิ่งเหล่านี้จะช่วยส่งเสริมให้การดำเนินธุรกิจมีความโปร่งใส เป็นระบบ และสอดคล้องกับแนวทางของผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่มีความรับผิดชอบ
การหารือร่วมกันเกี่ยวกับบทบาทของผู้ปกครองและเยาวชนในแต่ละด้านของธุรกิจตั้งแต่เริ่มต้น ไม่เพียงแต่ช่วยให้ธุรกิจดำเนินไปอย่างราบรื่นเท่านั้น แต่ยังเป็นการปลูกฝังทักษะความเป็นมืออาชีพและความเข้าใจเรื่องการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนอีกด้วย
7.สร้างร้านค้าออนไลน์
หากคุณวางแผนจะทำธุรกิจในรูปแบบออนไลน์ การมีเว็บไซต์หรือร้านค้าออนไลน์เป็นของตัวเองคือจุดเริ่มต้นที่สำคัญ โดยเด็กทำธุรกิจสามารถใช้บัญชีของผู้ปกครองในการสมัครแพลตฟอร์มอย่าง Shopify เพื่อเริ่มต้นเปิดร้านค้า ส่วนการออกแบบร้านและจัดการเนื้อหาภายในเว็บไซต์นั้น สามารถทำได้ด้วยตัวเอง
สิ่งที่ควรพิจารณาเมื่อตั้งค่าร้านค้าออนไลน์ ได้แก่
- กลุ่มเป้าหมายของคุณคือใคร การออกแบบร้านควรเหมาะสมกับคนที่จะเข้ามาเยี่ยมชมและซื้อสินค้า เช่น เด็กวัยเรียน วัยรุ่น หรือผู้ใหญ่ เว็บไซต์ควรใช้งานง่าย มีหมวดหมู่ชัดเจน และแสดงข้อมูลที่ผู้ซื้อจำเป็นต้องรู้ เช่น หน้าคำถามที่พบบ่อย (FAQ), เงื่อนไขการจัดส่งและคืนสินค้า รวมถึงช่องทางติดต่อที่ชัดเจน
- เล่าเรื่องของธุรกิจ การมีหน้า “เกี่ยวกับเรา” ที่เล่าถึงแรงบันดาลใจ แนวคิดเบื้องหลังแบรนด์ หรือเหตุผลที่คุณเริ่มต้นทำธุรกิจ จะช่วยให้ผู้ซื้อรู้สึกเชื่อมโยงกับร้านค้าได้มากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเป็นธุรกิจของเด็กหรือวัยรุ่น ที่มีจุดเริ่มต้นน่าสนใจ
- เขียนคำอธิบายสินค้าให้น่าสนใจ ไม่ว่าจะใช้สำนวนสนุกๆ หรือภาษาตรงไปตรงมา คำอธิบายสินค้าควรให้ข้อมูลครบถ้วน เช่น ขนาด สี วิธีใช้ หรือความพิเศษของสินค้านั้น นี่คือโอกาสในการบอกลูกค้าว่าอะไรทำให้สินค้าของคุณแตกต่างและน่าซื้อ
8.สร้างบัญชีโซเชียลมีเดีย
โซเชียลมีเดียเป็นวิธีที่ดีในการสร้างฐานผู้ติดตามและสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย หากคุณยังไม่ถึงเกณฑ์อายุขั้นต่ำในการสมัครใช้งาน แนะนำให้ให้ผู้ปกครองเป็นผู้ลงทะเบียนบัญชีและช่วยดูแลกิจกรรมต่างๆ แต่ในเรื่องของการสร้างคอนเทนต์ คุณคือผู้เชี่ยวชาญตัวจริง
นี่คือเคล็ดลับบางอย่างที่จะช่วยให้บัญชีโซเชียลของคุณน่าสนใจ
- โพสต์อย่างสม่ำเสมอ การอัปเดตบัญชีอยู่เสมอจะช่วยเพิ่มการมองเห็นโพสต์ของคุณ ลองวางแผนโพสต์ล่วงหน้าด้วยการทำปฏิทินเนื้อหา เพื่อให้คุณสามารถจัดการโพสต์ได้ต่อเนื่อง
- มีปฏิสัมพันธ์กับผู้ติดตาม อย่าเพียงแค่โพสต์แล้วปล่อยผ่าน แต่ให้พูดคุยกับผู้ติดตามของคุณด้วย เมื่อมีคนแสดงความคิดเห็น ให้ตอบกลับอย่างเป็นมิตรและเป็นตัวของตัวเอง
- อย่ากลัวที่จะลองสิ่งใหม่ๆ บางครั้งเนื้อหาที่เราไม่คาดคิดว่าจะได้รับความนิยมกลับกลายเป็นไวรัล ลองสร้างคอนเทนต์ในรูปแบบใหม่ๆ เพื่อดูว่าอะไรที่ตรงใจผู้ชมของคุณมากที่สุด
9.ทำการตลาดและขายสินค้า/บริการ
ได้เวลาทำเงินจากไอเดียของคุณแล้ว! เริ่มต้นเปิดเว็บไซต์หรือร้านค้าออนไลน์ จากนั้นวางแผนการตลาดเพื่อดึงดูดลูกค้า และรอเสียงแจ้งเตือนคำสั่งซื้อผ่านมือถือของคุณ นอกจากนี้ คุณยังสามารถขายสินค้าแบบออฟไลน์ได้ด้วย เช่น ออกบูธตามงานแสดงสินค้าท้องถิ่น หรือกิจกรรมที่โรงเรียนจัดขึ้น
10.บริหารจัดการเรื่องการเงิน
เมื่อเริ่มมีรายได้จากธุรกิจ สิ่งสำคัญคือต้องมีแผนการจัดการเงินที่ชัดเจน เช่น ตัดสินใจว่าจะนำกำไรบางส่วนกลับไปลงทุนในธุรกิจ หรือเก็บไว้เป็นเงินทุนสำรอง นอกจากนี้ คุณอาจกันเงินบางส่วนเพื่อเก็บออมเข้ากองทุนเรียนต่อในอนาคต หรือแม้กระทั่งเป็นเงินเกษียณ
ขอคำแนะนำจากผู้ปกครองเกี่ยวกับวิธีจัดการการเงิน เช่น การอ่านรายงานทางการเงินเบื้องต้น หรือทำบัญชีรายรับรายจ่ายอย่างเป็นระบบ ทักษะเหล่านี้จะช่วยให้คุณพร้อมรับมือกับฤดูกาลเสียภาษี และพัฒนานิสัยทางการเงินที่ดีตั้งแต่อายุยังน้อย
เพราะไอเดียธุรกิจของคุณ “รอไม่ได้”

ภาพฟีเจอร์โดย Anna Shvets
ภาพถ่ายจาก Pexels
เด็กและวัยรุ่นในยุคนี้คือผู้ที่เหมาะสมที่สุดในการสร้างธุรกิจเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภครุ่นใหม่ ซึ่งก็คือกลุ่มเพื่อนๆ รุ่นราวคราวเดียวกัน คุณไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงอายุ 18 ปี—เริ่มพูดคุยกับผู้ปกครองและลงมือทำตามไอเดียของคุณได้ตั้งแต่วันนี้
บทเรียนจากการสร้างธุรกิจตั้งแต่ยังเด็ก จะกลายเป็นต้นทุนอันล้ำค่าเมื่อคุณเติบโตขึ้น
“ระหว่างทางอาจมีอุปสรรคและคนที่ไม่เชื่อในตัวคุณ แต่ถ้าคุณทำในสิ่งที่คุณรักต่อไป มันจะคุ้มค่าในที่สุด”— Esma Ilyas ผู้ร่วมก่อตั้ง Ivory Ella แบรนด์เพื่อสังคม
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการที่เด็กทำธุรกิจ
เด็กวัยรุ่นเริ่มทำธุรกิจเองได้หรือไม่
ได้ นักเรียนมัธยมสามารถเริ่มทำธุรกิจของตัวเองได้ โดยมีผู้ปกครองช่วยสนับสนุน ไอเดียยอดนิยมสำหรับวัยรุ่น เช่น บริการในชุมชน ขายของทำมือทางออนไลน์ หรือเปิดบริการสอนพิเศษให้เด็กเล็ก ทั้งนี้ ควรปรึกษาผู้ปกครองและศึกษาข้อกฎหมายก่อนเริ่มทำธุรกิจเสมอ
อายุเท่าไหร่ถึงจะเหมาะกับการเริ่มทำธุรกิจ
อายุที่เหมาะสมที่สุด คือเมื่อคุณมีไอเดียที่อยากทำจริงและพร้อมจะลงมือ แม้แต่เด็กเล็กก็เริ่มได้ เช่น Ollie Fequiere ที่เริ่มขายบาธฟิซซี่ของตัวเองตั้งแต่อายุ 6 ขวบ โดยคุณแม่ของเขาช่วยดูแลด้านธุรกิจ ส่วน Ollie เป็นตัวแทนแบรนด์และเลือกกลิ่นกับดีไซน์ เด็กโตจะมีอิสระมากขึ้น แต่ยังต้องให้ผู้ปกครองช่วยสมัครใช้งาน Shopify
เด็กสามารถทำธุรกิจประเภทไหนได้บ้าง
ธุรกิจสำหรับเด็กมีได้หลายรูปแบบ ผู้ปกครองควรช่วยตรวจสอบว่าไอเดียหรือสินค้ามีข้อจำกัดเรื่องอายุหรือไม่ ตัวอย่างธุรกิจที่เด็กสามารถเริ่มได้ เช่น
- บริการพาเดินเล่นสุนัข
- ขายเลมอนเนด
- ขายของทำมือ
- ทำขนม
- บริการช่วยเหลือเพื่อนบ้าน
เด็กสามารถขายของผ่าน Shopify ได้หรือไม่
เด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปีไม่สามารถเปิดร้าน Shopify ด้วยตัวเองได้ แต่สามารถทำธุรกิจผ่านบัญชีของผู้ปกครองได้ โดยให้พ่อแม่หรือผู้ดูแลเป็นผู้สมัครและจัดการบัญชี