16 แหล่งค้นหาไอเดียผลิตภัณฑ์ที่สดใหม่

ไอเดียผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมมักเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่คุณไม่คาดคิด แต่หลายครั้งคุณก็ต้องมองหาเอาเอง

นั่นเป็นเพราะว่ามีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ถึง 95% ที่ล้มเหลว

อินเทอร์เน็ตเต็มไปด้วยไอเดียและแรงบันดาลใจ แต่ในฐานะผู้ประกอบการ คุณควรเริ่มจากที่ไหนดีล่ะ? หากคุณไม่อยากค้นหาแบบไม่มีจุดหมาย คุณควรใช้แหล่งข้อมูลนี้เป็นจุดเริ่มต้น

ข้อควรพิจารณาเกี่ยวกับไอเดียผลิตภัณฑ์

เมื่อคุณอ่านแหล่งข้อมูลทั้งหมดในโพสต์นี้ นี่คือสองสิ่งที่คุณควรนึกถึง

มองให้มากกว่าแค่การเป็นผลิตภัณฑ์ชิ้นหนึ่ง โดยผลิตภัณฑ์ในประเภทที่มีการแข่งขันสูงนั้นต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์ ดังนั้นคุณต้องมองหาศักยภาพในประเภทผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่แค่ผลิตภัณฑ์นั้นๆ ค้นหามุมมองที่เป็นเอกลักษณ์ ตลาดใหม่ คุณสมบัติที่สร้างสรรค์ หรือวิธีการใหม่ๆ ในการใช้ผลิตภัณฑ์

นึกถึงประเภทผลิตภัณฑ์และช่องทางที่เล็กกว่า ถึงแม้ว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้อาจมีลูกค้าที่มีศักยภาพน้อยกว่า แต่ในขณะเดียวกันก็มีคู่แข่งน้อยกว่าด้วย การแข่งขันที่น้อยกว่าทำให้การโฆษณากับกลุ่มเป้าหมายของคุณคุ้มทุนและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

กำลังมองหาการเริ่มต้นธุรกิจแต่ไม่แน่ใจว่าจะขายอะไรใช่ไหม? ลองดูรายชื่อไอเดียธุรกิจของเราที่มีผลิตภัณฑ์ที่กำลังมาแรงกว่า 100 รายการ

เรียนรู้เพิ่มเติม

อย่ากลัวที่จะมองหาหมวดผลิตภัณฑ์ที่มีขนาดเล็กและเป็นตลาดเฉพาะกลุ่ม ถึงแม้ตลาดเฉพาะกลุ่มจะเป็นกลุ่มย่อยที่เล็กกว่าของหมวดหมู่ใหญ่ที่มีลูกค้าน้อยกว่า แต่ข้อดีก็คือมีคู่แข่งน้อยกว่าและมีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนกว่า ซึ่งการแข่งขันที่น้อยกว่าทำให้คุณสามารถขึ้นไปอยู่ในอันดับต้นๆ ของ Google ได้ง่ายขึ้น และอาจทำให้การโฆษณาไปถึงลูกค้าของคุณมีประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากขึ้น

ในโพสต์นี้ เราจะมาบอกแหล่งที่ดีที่สุดในการค้นหาโอกาสของผลิตภัณฑ์และไอเดียผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นสำหรับการเพิ่มกลุ่มผลิตภัณฑ์หรือร้านค้าใหม่ เราจะเริ่มต้นด้วยไอเดียแบบกว้างๆ เพื่อให้คุณได้เริ่มต้นค้นหา และจากนั้นจะเข้าสู่แหล่งข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้นในท้ายโพสต์

16 แหล่งค้นหาไอเดียผลิตภัณฑ์

1. เริ่มจากสิ่งที่มี
2. ใส่ใจในเทรนด์ใกล้บ้าน
3. สอบถามจากจากสื่อสิ่งพิมพ์เกี่ยวกับเทรนด์ผู้บริโภคออนไลน์
4. หาแรงบันดาลใจจากผู้ที่ประสบความสำเร็จในวงการ
5. ใช้เว็บไซต์ค้นหาผลิตภัณฑ์และเทรนด์
6. สำรวจตลาดค้าส่ง B2B
7. หาข้อมูลจากตลาดผู้บริโภคออนไลน์
8. ดูจากกลุ่มผู้ใช้บนโซเชียล
9. ค้นหาจากเครือข่ายโซเชียลมีเดีย
10. อ่านรีวิวจากลูกค้าในเว็บไซต์และจากบุคคลอื่น
11. อ่านการวิเคราะห์ SEO และข้อมูลเชิงลึก
12. อ่านสื่อสิ่งพิมพ์เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค
13. เรียนรู้จากคู่แข่ง
14. สร้างแบบสำรวจลูกค้า
15. ใช้การระดมความคิดจากกลุ่มคน
16. มองย้อนกลับไปในอดีต

เมื่อคุณอ่านโพสต์นี้และแหล่งข้อมูลต่างๆ แล้ว ควรจดไอเดียทั้งหมดลงบนกระดาษไว้ด้วย เมื่อคุณบันทึกไอเดียที่ผ่านการระดมความคิดทั้งหมดแล้ว คุณจะได้กลับมาดูไอเดียเหล่านั้นในภายหลังเพื่อประเมินความเป็นไปได้และศักยภาพต่างๆ

1. เริ่มจากสิ่งที่มี

ก่อนที่คุณจะเริ่มค้นหาไอเดียธุรกิจขนาดเล็ก ผลิตภัณฑ์ และตลาดเฉพาะกลุ่มจากเว็บไซต์ การเริ่มต้นจากไอเดียที่คุณมีอยู่แล้วนั้นย่อมเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

โดยอาจเป็นผลิตภัณฑ์หรือไอเดียที่อยู่ในหัวคุณมาหลายปีแล้ว หรืออาจอยู่ในแผนธุรกิจที่เขียนไว้ส่วนหนึ่งในโฟลเดอร์คอมพิวเตอร์ของคุณ ถึงแม้คุณอาจเคยคิดว่ามันไม่ดี แต่การหันกลับไปดูอีกครั้งก็เป็นอะไรที่น่าลอง เพราะอย่างน้อยครั้งหนึ่งคุณก็เคยมองว่ามันเป็นไอเดียที่ยอดเยี่ยมใช่ไหมล่ะ?

นี่คือคำถามที่ควรตอบให้ได้เมื่อเอาไอเดียธุรกิจออนไลน์ของคุณมาจอเป็นข้อๆ:

• คุณมีความหลงใหลหรือสนใจในผลิตภัณฑ์ ตลาดเฉพาะ หรืออุตสาหกรรมใดเป็นพิเศษ?
• เพื่อนของคุณมีความหลงใหลในผลิตภัณฑ์ ตลาดเฉพาะ หรืออุตสาหกรรมใด?
• อะไรคือปัญหาหรือจุดอ่อนในชีวิตของคุณ?

การมองหาปัญหาจากกลุ่มคนรอบตัวคุณเป็นวิธีที่ชาญฉลาดในการระดมไอเดียผลิตภัณฑ์ที่ดี โดย Michelle Ebbin เจ้าของ Jettproof แบรนด์เสื้อผ้าสำหรับผู้ที่มีความรู้สึกไว ซึ่งนำเสนอแนวคิดผลิตภัณฑ์ที่เข้าถึงได้ผ่านความต้องการในชีวิตประจำวัน แบรนด์นี้ผลิตเสื้อผ้าที่ให้ความรู้สึกสงบเพื่อช่วยเหลือเด็กและผู้ใหญ่ที่เป็นออทิสติก โรคการประมวลผลทางประสาทสัมผัส ดาวน์ซินโดรม โรคสมาธิสั้น และโรคอื่นๆ ที่ส่งผลต่อระบบประสาทสัมผัส

Michelle กล่าวว่า “พนักงานของ JettProof บางคนมีสมาชิกในครอบครัวที่เป็นโรคทางประสาทสัมผัส โดยเมื่อเราระดมสมองเพื่อคิดค้นไอเดียผลิตภัณฑ์ใหม่ เราจะถามว่าอะไรคือสิ่งที่คนที่พวกเขารักต้องการสำหรับฤดูกาล สถานการณ์ และกิจกรรมต่างๆ

“เมื่อเกิดการระบาดของ COVID-19 และหน้ากากอนามัยกลายเป็นสิ่งจำเป็น หนึ่งในสมาชิกทีมของเราก็คิดค้นไอเดียหน้ากากอนามัยที่มีคุณสมบัติช่วยลดความเครียดโดยใช้ผ้าที่เราสร้างขึ้นเองทราชื่อว่า Calmtex”

ไอเดียผลิตภัณฑ์นี้ประสบความสำเร็จ ตอนนี้ผู้ที่มีความรู้สึกไวสามารถสวมหน้ากากอนามัยได้อย่างสบายใจเมื่อต้องไปยังศูนย์บำบัด คลินิก โรงพยาบาล และสถานที่ทำงาน

เคล็ดลับที่ดีที่สุดของฉันในการค้นหาไอเดียผลิตภัณฑ์คือการมองหาจากกลุ่มคนรอบตัวก่อน ลองนึกดูว่าอะไรคือสิ่งที่คนที่คุณรักต้องการและสามารถใช้เพื่อทำงานได้ในครอบครัวและชุมชนของพวกเขา

Michelle Ebbin, เจ้าของ Jettproof

ลองคิดดูว่าคุณมี Pain Point อะไรบ้างในชีวิตของคุณ หรือแม้แต่ความยากลำบากของคนรอบข้าง

ตัวอย่างเช่น สมมติว่าคุณเข้ามาแก้ไขปัญหาเรื่องของเล่นสุนัขที่เคี้ยวง่ายและพังง่าย เจ้าของสุนัขจะรู้สึกหงุดหงิดกับผลิตภัณฑ์ที่ไม่น่าเชื่อถือ และจะต้องเสียค่าใช้จ่ายมากขึ้นในทันที ซึ่งตลาดของเล่นสุนัขที่มีจุดเด่นเรื่องความทนทานนี้จะอิงจากปัญหาเฉพาะในจุดนี้

2. ใส่ใจในเทรนด์ใกล้บ้าน

บางครั้งคุณก็ไม่จำเป็นต้องมีไอเดียใหม่ๆ เลย ธุรกิจแบบมีหน้าร้านดั้งเดิมนั้นมีมานานกว่าธุรกิจออนไลน์มาก การใส่ใจแนวโน้มจากหน้าร้านค้าและปรับให้เข้ากับอีคอมเมิร์ซอาจเป็นสิ่งที่คุณต้องการเพื่อสร้างไอเดียธุรกิจออนไลน์ที่ทำกำไรได้และโดดเด่นเหนือใคร

ลองมองดูไปรอบๆ ชุมชนของคุณและสังเกตดูว่ามีไอเดียการขายแบบใหม่หรือไอเดียที่น่าสนใจอะไรบ้างที่ผู้คนกำลังพูดถึง คุณอาจลองหาดูในแหล่งต่างๆ เพื่อหาแรงบันดาลใจก็ได้ เช่น:

• หนังสือพิมพ์
• งานฝีมือ
• ตลาดในท้องถิ่น
• กิจกรรมในชุมชน

3. สื่อสิ่งพิมพ์เกี่ยวกับเทรนด์ผู้บริโภคออนไลน์

แหล่งค้นหาไอเดียผลิตภัณฑ์อันยอดเยี่ยมคือสื่อสิ่งพิมพ์เกี่ยวกับเทรนด์ของผลิตภัณฑ์ผู้บริโภคชั้นนำ การติดตามสื่อสิ่งพิมพ์ที่นำเสนอเรื่องเทรนด์จะช่วยให้คุณเข้าใจทิศทางของผลิตภัณฑ์ผู้บริโภคและไอเดียผลิตภัณฑ์ที่ผู้ประกอบการคนอื่นๆ กำลังขายอยู่ในตลาด

การติดตามสื่อเหล่านี้ช่วยให้คุณได้รู้จักหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์และอุตสาหกรรมใหม่ๆ ที่คุณอาจไม่เคยรู้จักมาก่อน การติดตามเทรนด์สามารถช่วยให้คุณคิดค้นสินค้า บริการ และประสบการณ์ใหม่ๆ สำหรับธุรกิจออนไลน์ของคุณได้

มีสื่อสิ่งพิมพ์เกี่ยวกับเทรนด์ทางออนไลน์ที่ได้รับความนิยมอยู่หลายรายเลย:

TrendWatching

TrendWatching เป็นบริษัทด้านเทรนด์อิสระที่มองหาเทรนด์และข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผู้บริโภคที่มีแนวโน้มดีที่สุดทั่วโลก โดย TrendWatching มีทีมงานมืออาชีพอยู่ตามที่ต่างๆ เช่น ลอนดอน นิวยอร์ก เซาเปาโล สิงคโปร์ ซิดนีย์ และลากอส ซึ่งทำหน้าที่รายงานเทรนด์จากทั่วโลก

Trend Hunter

Trend Hunter เป็นชุมชนเทรนด์ที่ใหญ่และได้รับความนิยมสูงสุดในโลก โดยมีเครือข่ายทั่วโลกที่มีสมาชิก 160,000 รายและแฟนคลับสามล้านคน โดยเป็นแหล่งรวมแรงบันดาลใจสำหรับผู้ประกอบการที่เต็มไปด้วยความฝันและใฝ่เรียนรู้

Jeremy ผู้ก่อตั้ง Trend Hunter กล่าวว่า “ผมเป็นผู้ประกอบการตัวจริงเหมือนคนอื่นเลย แต่ก็ไม่มีไอเดียอยู่ในหัว ซึ่งผมเลือกอาชีพที่คิดว่าจะทำให้ได้ไอเดียธุรกิจ แต่หลังจากค้นหามานานหลายปี ผมก็ยังไม่หยุดค้นหาแรงบันดาลใจเลย นี่คือจุดเริ่มต้นของ Trend Hunter ซึ่งเป็นแหล่งที่คนผู้ใฝ่รู้สามารถแชร์ไอเดียและค้นหาแรงบันดาลใจได้”

PSFK

PSFK เป็นแพลตฟอร์มข้อมูลธุรกิจที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้เชี่ยวชาญด้านความคิดสร้างสรรค์ที่พัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการ และประสบการณ์ใหม่ๆ ในด้านค้าปลีก โฆษณา และการออกแบบ โดยจะวิเคราะห์เทรนด์และข้อมูลเชิงลึกที่อิงจากการวิจัยซึ่งคุณสามารถใช้เป็นจุดเริ่มต้นและการตรวจสอบความถูกต้องของไอเดียธุรกิจอีคอมเมิร์ซได้

Dan Ben-Nun ผู้สร้างผลิตภัณฑ์ Inkkas เป็นตัวอย่างที่ดีของผู้ที่มองเห็นกระแสและนำมาสร้างสรรค์เป็นไอเดียผลิตภัณฑ์รองเท้าที่สวยและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวซึ่งทำจากผ้าทอจากอเมริกาใต้อย่าง Inkkas

Dan ได้ไอเดียรองเท้า Inkkas เมื่อเขามองว่ารองเท้าสไตล์นี้กำลังได้รับความนิยมในเปรู เขาจึงนำไอเดียนี้มาสร้างผลงานและเปิดตัวแคมเปญ Kickstarter ได้สำเร็จ โดยสามารถระดมทุนจากการพรีออเดอร์ได้มากกว่า 77,000 ดอลลาร์

4. ผู้ที่ประสบความสำเร็จในวงการ

หากคุณรู้จักอุตสาหกรรมหรือตลาดเฉพาะทางที่คุณต้องการอยู่ คุณสามารถใช้เครื่องมือต่าง ๆ เพื่อค้นหาอินฟลูเอนเซอร์ในวงการนั้นๆ การติดตามผู้คนอย่างเหมาะสมในโซเชียลมีเดียสามารถช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับไอเดียใหม่ๆ ผ่านการนำเสนอเนื้อหาที่คัดสรรมาอย่างดีจากผู้ที่มีความรู้ ตรงนี้ก็อยู่ที่คุณว่าจะค้นพบโอกาสหรือไม่

มีเครื่องมือออนไลน์ที่คุณสามารถใช้เพื่อค้นหาอินฟลูเอนเซอร์ในวงการหรือกลุ่มเฉพาะได้:

• Followerwonk
• BuzzSumo

5. เว็บไซต์ค้นหาผลิตภัณฑ์และเทรนด์

เว็บไซต์สำหรับรีวิวและค้นหาผลิตภัณฑ์เป็นแหล่งข้อมูลด้านไอเดียผลิตภัณฑ์และธุรกิจบนอินเทอร์เน็ตที่ดีเยี่ยม เว็บไซต์อย่าง Uncrate และ Design Milk เป็นช่องทางที่คัดสรรเทรนด์ผลิตภัณฑ์ดีๆ มาให้คุณทุกวัน

ตัวอย่างบล็อกเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคยอดนิยมที่จะช่วยให้คุณเริ่มต้นได้

• Uncrate
• Design Milk
• Bless This Stuff
• Cool Material
• GearMoose
• Werd
• HiConsumption
• Firebox

อย่ามองแค่เว็บไซต์ใหญ่ๆ และเป็นที่นิยมเท่านั้น แต่ให้ดูเว็บไซต์รีวิวแบบเฉพาะกลุ่มด้วย ลองนึกถึงประเภทผลิตภัณฑ์และตลาดเฉพาะกลุ่มที่คุณสนใจเป็นพิเศษ และค้นหาบล็อกรีวิวผลิตภัณฑ์ผู้บริโภคในตลาดเหล่านี้ดู

6. ตลาดค้าส่ง B2B

ไม่มีวิธีไหนจะดีไปกว่าการได้ไอเดียผลิตภัณฑ์จากแหล่งที่มาโดยตรงแล้ว นี่เป็นตัวเลือกยอดนิยมในหมู่ผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซมาสักระยะหนึ่งแล้ว และนี่คือแหล่งที่เราจะไม่พูดถึงไม่ได้

เว็บไซต์ขายส่งและจัดหาผลิตภัณฑ์จะช่วยให้คุณได้ไอเดียผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจชนิดนับไม่ถ้วน ซึ่งการมีผลิตภัณฑ์ให้เลือกมากมายบางทีก็อาจทำให้คุณสึกสับสนได้ ดังนั้นใจเย็นๆ และค่อยๆ เลือก

Alibaba

Alibaba เป็นหนึ่งในบริษัทอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในโลกพอๆ กับ Amazon และ eBay นี่คือแพลตฟอร์มที่จะเชื่อมโยงผู้บริโภคเข้ากับผู้ค้าส่งและผู้ผลิตจากเอเชีย

แพลตฟอร์มนี้มีหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์กว่า 5,900 หมวด ดังนั้นไม่มีอะไรที่คุณจะหาไม่เจอใน Alibaba โดยผลิตภัณฑ์จาก Alibaba Dropshipping นั้นครอบคลุมทุกประเภทและตลาดเฉพาะ ดังนั้นจึงมีแรงบันดาลใจมากมายให้คุณ

Alibaba นั้นเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปว่าเป็นฐานข้อมูลการค้าส่งและผู้ผลิตออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุด แต่ก็ยังมีเว็บไซต์อื่นอีกมากมายที่คล้ายกับ Alibaba ที่คุณจะหาแรงบันดาลใจและค้นหาไอเดียผลิตภัณฑ์ได้

DSers

DSers เป็นตลาดที่คุณสามารถซื้อผลิตภัณฑ์จาก AliExpress เพื่อขายบน Shopify ได้ โดยผู้จัดจำหน่ายเหล่านี้ให้บริการด้านการจัดการคำสั่งซื้ออัตโนมัติ จึงเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมสำหรับผู้ประกอบการหลายรายที่กำลังตัดสินใจว่าจะขายอะไรบน Shopify ลองดูในเว็บไซต์ว่ามีอะไรบ้าง และดูผลิตภัณฑ์ที่กำลังมาแรงของ Oberlo เพื่อช่วยให้คุณได้ไอเดียของตัวเอง

ตลาดค้าส่ง B2B อื่นๆ ได้แก่

• TradeKey
• Global Sources
• Made-in-China
• Wholesale Central

7. ตลาดผู้บริโภคออนไลน์

อีกหนึ่งแหล่งรวมไอเดียผลิตภัณฑ์ชั้นยอดคือตลาดผู้บริโภคออนไลน์ ซึ่งเป็นแหล่งที่มีผลิตภัณฑ์ให้คุณเลือกอย่างมหาศาล ดังนั้นคุณอาจต้องการเริ่มวิจัยตลาดด้วยผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมและมีแนวโน้มดี จากนั้นจึงค่อยดูเพิ่มในหมวดหมู่อื่นที่น่าสนใจ:

eBay: เว็บไซต์ประมูลออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุด ลองดูรายการสินค้าขายดีของ eBay เพื่อค้นหาหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ยอดนิยมบน eBay

Amazon: Amazon เป็นผู้ค้าปลีกออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุด โดยใน Amazon Best Sellers จะแสดงผลิตภัณฑ์ยอดนิยมของ Amazon ตามยอดขาย ในขณะที่ Amazon Movers & Shakers จะเผยรายชื่อผู้ที่ได้ทำยอดขายเพิ่มขึ้นสูงสุดในช่วง 24 ชั่วโมงล่าสุด ซึ่งทั้งสองช่องทางนี้มีการอัปเดตอยู่บ่อยครั้ง

Kickstarter: Kickstarter เป็นเว็บไซต์ระดมทุนที่ใหญ่ที่สุด คุณสามารถเรียกดูโครงการทั้งหมดตามความนิยม การระดมทุน การเลือกสรรจากทีมงาน และตัวเลือกอื่นๆ มากมายด้วย Kickstarter Discover

Etsy: เป็นตลาดสำหรับสินค้าทำมือ ดูสิ่งที่กำลังมาแรงเพื่อค้นหาผลิตภัณฑ์ยอดนิยม

AliExpress: AliExpress เป็นตลาดค้าส่งของ Alibaba ซึ่งอนุญาตให้คุณสั่งซื้อในปริมาณที่น้อยกว่าได้ โดยใน AliExpress Popular จะแสดงผลิตภัณฑ์ที่ขายดีที่สุด

8. กลุ่มผู้ใช้บนโซเชียล

Reddit

Reddit เป็นเว็บไซต์รวมข่าวสารโซเชียลมีเดียที่ใหญ่ที่สุด โดยอธิบายตัวเองว่าเป็นหน้าหลักของเว็บไซต์และมีอิทธิพลอย่างมาก Reddit มี “Subreddits” หลายพันรายการ ซึ่งเป็นหมวดหมู่ย่อยหรือหมวดหมู่เฉพาะตามหัวข้อและความสนใจต่างๆ โดยคุณสามารถหาแรงบันดาลใจสำหรับผลิตภัณฑ์หรือไอเดียธุรกิจในอนาคตของคุณได้ภายใน Subreddits เหล่านี้

หากคุณมีไอเดียในวงการต่างๆ กลุ่มเฉพาะทาง หรือประเภทผลิตภัณฑ์ใดก็ตาม คุณก็ควรเข้าหาชุมชน Subreddit ที่เหมาะสมเพื่อเข้าร่วมและมีส่วนร่วม โดยมี Subreddit ที่สนใจเรื่องผลิตภัณฑ์อยู่มากมายที่เต็มไปด้วยไอเดียสดใหม่

นี่คือตัวอย่างบางส่วน:

• Buy It For Life: สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ทนทาน และใช้งานได้ดี
• Shut Up And Take My Money: ผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ ฉลาดซื้อฉลาดใช้ และมีประโยชน์ที่ผู้คนต้องการอย่างมาก

หากคุณใช้งาน Reddit เป็นประจำและคอยใส่ใจ คุณอาจเจอโพสต์ที่น่าสนใจอย่างโพสต์นี้ที่ขอให้ผู้แสดงความคิดเห็นช่วยกันบอกสินค้าที่ดีที่สุดที่ซื้อมาในราคาไม่เกิน 50 ดอลลาร์

ไม่ว่าคุณจะใช้วิธีไหน Reddit ยังคงเป็นแหล่งข้อมูลที่มีคุณค่าในการค้นหาไอเดียธุรกิจอีคอมเมิร์ซและแรงบันดาลใจ พร้อมกับชุมชนที่ยอดเยี่ยมและมีการสนับสนุนที่ดี

Quora

Quora เป็นเว็บไซต์ถาม-ตอบสำหรับชุมชน ซึ่งบริษัทได้บอกว่า “เป็นแหล่งเรียนรู้และแบ่งปันความรู้” โดยผู้ใช้จะเข้ามาที่ Quora เพื่อถาม-ตอบในแทบทุกเรื่อง

Quora มีหัวข้อที่คุณสามารถเพิ่มลงในฟีดที่กำหนดเองได้ในแบบเดียวกันกับ Subreddit ของ Reddit ลองเพิ่มฟีดที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือวงการต่างๆ รวมถึงสิ่งที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรูปแบบธุรกิจออนไลน์

และ Quora ยังแสดงหัวข้อและคำถามที่เป็นกระแส พร้อมด้วยจำนวนคำตอบทั้งหมด (แต่ละรายการจะมีจำนวนการโหวตขึ้นและลงจากชุมชน)

เมื่อคุณเพิ่มข้อมูลลงในฟีดแล้ว คุณจะเจอคำถามและคำตอบที่อาจเป็นแรงบันดาลใจให้ไอเดียธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และนี่คือคำถามและคำตอบบางส่วน

• ของขวัญที่ดีที่สุดที่คุณเคยได้รับคืออะไร?
• ผลิตภัณฑ์ที่คุณชื่นชอบคืออะไร?
• คุณซื้อผลิตภัณฑ์จาก Amazon หรือไม่?

ฟอรัมของวงการต่างๆ และตลาดเฉพาะทาง

โดยอาจมีเว็บไซต์ฟอรัมเฉพาะทางที่คุณสามารถเข้าไปหาไอเดียผลิตภัณฑ์เพื่อขายได้ ตรงนี้ขึ้นอยู่กับว่าคุณพุ่งเป้าไปที่วงการใด โดยอุตสาหกรรมเกมมีชุมชนออนไลน์ที่คึกคัก และคุณสามารถดูฟอรัมอย่าง GameFAQs หรือ NeoGAF

นี่คือตัวอย่างฟอรัมของวงการอื่นๆ สำหรับไอเดียผลิตภัณฑ์ตลาดเฉพาะทาง

• The Fashion Spot
• Nerd Fitness
• Geeks to Go

9. เครือข่ายโซเชียลมีเดีย

มีหลายวิธีที่คุณสามารถใช้โซเชียลมีเดียเพื่อค้นหาไอเดียผลิตภัณฑ์และตลาดเฉพาะทาง

แฮชแท็ก หากคุณสนใจเป็นพิเศษในประเภทผลิตภัณฑ์หรือวงการใดวงการหนึ่ง คุณอาจลองค้นหาแฮชแท็กที่เกี่ยวข้องดูได้ อีกทางเลือกที่ดีคือค้นหาแฮชแท็กที่บอกถึงความสนใจและความตั้งใจของผู้ซื้อ เช่น #want และ #buy บนโซเชียลมีเดีย

บัญชีคัดสรรผลิตภัณฑ์ มีหลายบัญชีใน Instagram ที่โพสต์เนื้อหาผลิตภัณฑ์ที่คัดสรรแล้ว คุณจะต้องค้นหาและมองหาบัญชีในกลุ่มเป้าหมายที่คุณสนใจเช่นเดียวกับตัวอย่างอื่นๆ ก่อนหน้านี้ 

ข้อมูลเชิงลึกของกลุ่มเป้าหมาย หากคุณมีเพจธุรกิจบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่างน้อยหนึ่งแพลตฟอร์มแล้ว คุณสามารถใช้ข้อมูลกลุ่มเป้าหมายเพื่อค้นหาไอเดียธุรกิจอีคอมเมิร์ซได้ ลองทำความเข้าใจว่าเพจ งานอดิเรก ความสนใจ และลักษณะอื่นๆ ใดที่เหมือนกันบ้าง แล้วรวบรวมไอเดียผลิตภัณฑ์โดยอิงจากข้อมูลเชิงลึกเหล่านั้น

Instagram

Instagram ไม่ใช่แค่ภาพอาหารและสุนัขเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในการสร้างแรงบันดาลใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และไอเดียธุรกิจอีคอมเมิร์ซอีกด้วย และเนื่องจากเป็นแอปที่ใช้รูปภาพเป็นหลัก จึงสามารถมองหาไอเดียและรูปภาพต่างๆ ได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว

Facebook

Facebook ยังคงมีผู้ใช้ที่ใช้งานมากที่สุดจากทุกแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย หากคุณกำลังพยายามเข้าถึงตลาดใดตลาดหนึ่ง มีโอกาสสูงว่าสิ่งที่คุณค้นหาจะอยู่บน Facebook

นอกจากแฮชแท็ก หัวข้อที่กำลังเป็นกระแส และเพจยอดนิยมแล้ว ให้ตรวจสอบว่ากลุ่ม Facebook ใดได้รับความนิยมในกลุ่มของคุณ Dawn LaFontaine ผู้ก่อตั้ง Cat in the Box เข้าร่วมและมีส่วนร่วมกับสมาชิกของกลุ่ม Facebook ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มของเธออย่างกลุ่มคนรักแมว โดย Dawn กล่าวว่า “มีเพจที่ชื่อว่า Purrtacular ซึ่งมีผู้ติดตามและมีส่วนร่วมในระดับสูงมาก”

“ทาสแมวทุกคนต่างโพสต์รูปตลกๆ ของสัตว์เลี้ยงของตัวเอง และถามคำถามเชิงลึกเกี่ยวกับสุขภาพและพฤติกรรมของน้องๆ ด้วย คำถามเหล่านี้และคำตอบจากสมาชิกในกลุ่มมักจะทำให้มองเห็นปัญหาที่เหล่าทาสแมวต้องเจอ” ซึ่งปัญหาเหล่านี้เองที่ทำให้ Dawn ได้ไอเดียผลิตภัณฑ์สำหรับร้านค้าออนไลน์ของเธอ

Pinterest

ค่าเฉลี่ยของยอดสั่งซื้อที่มาจาก Pinterest นั้นสูงกว่าช่องทางโซเชียลอื่นๆ ซึ่งบ่งบอกว่าผู้ใช้ Pinterest กำลังเรียกดู ช้อปปิ้ง และซื้อของ ทำให้เป็นแหล่งที่เหมาะสำหรับการศึกษาผลิตภัณฑ์และเทรนด์ที่มาแรง และยังเป็นแพลตฟอร์มที่เน้นรูปภาพ ทำให้คุณสามารถมองหาและได้แรงบันดาลใจสำหรับไอเดียธุรกิจอีคอมเมิร์ซได้ง่ายๆ

Snapchat

Snapchat เหมาะอย่างยิ่งสำหรับกลุ่มคนที่อายุน้อย โดยเป็นแพลตฟอร์มที่มีศักยภาพที่จำกัดกว่าในแง่ของการค้นหาเทรนด์ ลองใช้ตัวเลือก Discover เพื่อค้นหาสิ่งที่กลุ่มผู้ใช้ Snapchat พูดถึง และติดตามอินฟลูเอนเซอร์ในกลุ่มของคุณเพื่อศึกษาข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความต้องการและแรงจูงใจของเหล่าอินฟลูเอนเซอร์

X หรือในชื่อเดิมคือ Twitter

เทรนด์ใน X จะเป็นประโยชน์ในการค้นหาไอเดียธุรกิจอีคอมเมิร์ซใหม่ๆ โดยคุณจะได้ดูสิ่งที่ได้รับความนิยมในเครือข่ายของคุณหรือแหล่งที่เลือกได้ คุณจะเจอเทรนด์เหล่านี้อยู่ทางซ้ายมือเมื่อคุณเข้าสู่ระบบใน x.com หรือมองหาตัวเลือก Explore เมื่อคุณใช้แอปมือถือ

TikTok

แอปวิดีโอสั้นที่ประกาศเมื่อปี 2021 ว่ามีผู้ใช้เกินหนึ่งพันล้านรายและเป็นแอปที่ถูกดาวน์โหลดมากที่สุดในปี 2020 โดยเป็นที่รู้จักจากชาเลนจ์การเต้น โมเมนต์ไวรัล และเป็นที่ที่ผู้ขายสร้างการรับรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ด้วย โดย TikTok เต็มไปด้วยเสียง มีม และชาเลนจ์ที่เป็นกระแส ซึ่งคุณจะไม่มีวันขาดแรงบันดาลใจสำหรับไอเดียผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เลย

เว็บไซต์โซเชียลมีเดียเฉพาะกลุ่ม

หากคุณกำลังมองหาไอเดียผลิตภัณฑ์เฉพาะกลุ่ม เว็บไซต์โซเชียลมีเดียที่เน้นหัวข้อและงานอดิเรกที่เกี่ยวข้องเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับไอเดียผลิตภัณฑ์ใหม่ นี่คือตัวอย่างบางส่วน

• Houzz
• MapMyFitness
• Untappd
• Care2
• WAYN

แหล่งข้อมูลหลักสำหรับไอเดียผลิตภัณฑ์คือผู้ติดตามโซเชียลมีเดียของเรา เรามักจะสร้างโพลเพื่อถามพวกเขาว่าอยากเห็นผลิตภัณฑ์ใดเป็นตัวต่อไป

Jade Brown, ผู้ก่อตั้ง Sprout Design Lab

10. รีวิวจากลูกค้าบนเว็บไซต์และจากบุคคลอื่น

หากคุณมีธุรกิจอยู่แล้ว (ทั้งแบบออนไลน์และแบบมีหน้าร้าน) ให้ลองอ่านรีวิวจากลูกค้าของคุณดู ผู้ประกอบการที่ชาญฉลาดจะพิจารณาคำแนะนำของลูกค้าและแรงจูงใจเบื้องหลังคำแนะนำเหล่านั้น แล้วตอบสนองตามนั้น

หากคุณไม่มีรีวิวให้ดู ลองอ่านบทวิจารณ์ของบริษัทและผลิตภัณฑ์ในกลุ่มของคุณ ค้นหาจุดร่วม (โดยเน้นที่คำร้องเรียนของลูกค้าเป็นพิเศษ) และคิดดูว่าคุณจะสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์คำร้องเรียนนั้นได้อย่างไร

11. การวิเคราะห์ SEO และข้อมูลเชิงลึก

การเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องมือค้นหา (SEO) ช่วยให้คุณค้นพบสิ่งที่ลูกค้ากำลังค้นหาทางออนไลน์ เผยให้เห็นสิ่งที่เป็นกระแสและโอกาสของผลิตภัณฑ์ โดย Google มีเครื่องมือทั้งแบบฟรีและแบบเสียเงินที่คุณสามารถใช้ได้:

Google Trends ค้นหาสิ่งที่กำลังมาแรงทั้งในระดับโลกและระดับภูมิภาค และเลือกจากหัวข้อเฉพาะเช่น ธุรกิจ สุขภาพ และวิทยาศาสตร์/เทคโนโลยี นอกจากนี้ยังสามารถเรียกดูเรื่องราวที่สำคัญที่สุดเพื่อดูสิ่งที่กำลังมาแรง หากคุณมีตลาดหรือไอเดียเฉพาะ คุณสามารถวิจัยคีย์เวิร์ดเพื่อค้นหาการค้นหาที่เกี่ยวข้องกัน รวมถึงการคาดการณ์การเพิ่มขึ้นของปริมาณการค้นหา (ซึ่งสามารถช่วยกำหนดเวลาในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของคุณได้)

Google Keyword Planner จะช่วยคุณค้นหาคีย์เวิร์ดและวลีการค้นหาที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้เครื่องมือนี้เพื่อประเมินว่ามีคนอื่นเสนอราคาสำหรับวลีเป้าหมายสำหรับไอเดียธุรกิจอีคอมเมิร์ซของคุณหรือไม่

Google Analytics หากคุณมีเว็บไซต์อยู่แล้ว ให้ใช้ข้อมูลจาก Google Analytics เพื่อค้นหาคำหรือวลีที่ผู้ใช้ค้นหาเพื่อค้นหาเว็บไซต์ของคุณ ตัวอย่างเช่น อาจมีวลีค้นหาเชิงพรรณนาที่ทำให้คุณนึกถึงไอเดียสำคัญในอนาคต นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้ข้อมูลของ Google Analytics เพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมของผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ ซึ่งอาจทำให้ได้ไอเดียผลิตภัณฑ์ก็ได้

การค้นหาใน Google Google.com เป็นเครื่องมือที่มักถูกลืมที่ใช้ในการวิจัย SEO ของคุณ มีเรื่องสำคัญบางเรื่องที่คุณต้องพิจารณาเมื่อคุณค้นหาบน Google.com ได้แก่ ข้อความที่คาดไว้ (ในขณะที่คุณพิมพ์คำค้นหาในแถบค้นหา) โฆษณาแบบชำระเงินที่ด้านบนและที่แถบด้านข้าง การค้นหาที่แนะนำ (ที่ด้านล่างของหน้าเว็บไซต์) และผลลัพธ์ของ Google Shopping แล้วก็อย่าลืมดูที่ส่วนของรูปภาพและข่าวสารด้วย

12. สื่อสิ่งพิมพ์เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค

สิ่งพิมพ์ที่มุ่งเป้าไปที่ผู้บริโภคในวงการของคุณมีข้อมูลมากมายเกี่ยวกับกลุ่มตลาดและสิ่งที่เป็นกระแส ลองดูว่าสิ่งพิมพ์เหล่านี้กำลังพูดถึงอะไรและบทความใดที่เข้าถึงผู้อ่านได้มากที่สุด ถ้าอยากรู้ว่าบทความใดได้รับความนิยมสูงสุด ให้ดูว่าเนื้อหานั้นมีการแสดงความคิดเห็น การมีส่วนร่วมบนโซเชียลมีเดีย หรือการแชร์บนโซเชียลมีเดียมากแค่ไหน โดยบทความที่ได้รับความนิยมอาจเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดไอเดียสำหรับตลาดเฉพาะกลุ่มได้

13. คู่แข่งของคุณ

เรียนรู้จากความสำเร็จของคู่แข่งและธุรกิจยอดนิยมในวงการที่คุณเลือก ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวแล้วประสบความสำเร็จ สาเหตุที่ประสบความสำเร็จ บางครั้งแบรนด์ต่างๆ จะบอกเล่าเหตุผลและวิธีการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ

นอกจากผลิตภัณฑ์ของคู่แข่งแล้ว ให้ดูที่ชุมชนของพวกเขาว่ามีใครเป็นกลุ่มเป้าหมาย และทำไมพวกเขาจึงชอบผลิตภัณฑ์เหล่านั้น ดูว่าแบรนด์กำลังบอกอะไรกับผู้บริโภค รวมถึงวิธีที่ลูกค้าโต้ตอบทางออนไลน์ ค้นหาช่องว่างในผลิตภัณฑ์ของคู่แข่งและมองหาวิธีที่จะเติมเต็มช่องว่างเหล่านั้นด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ของคุณเอง

Stephen Light CMO และเจ้าของร่วมของแบรนด์ที่นอน Nolah ไม่ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ตลอดเวลา ซึ่งแบรนด์เองมีช่วงเวลาของผลิตภัณฑ์ที่จำกัด และจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เมื่อแบรนด์รู้สึกว่ามันเพิ่มคุณค่าให้กับกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่เท่านั้น เมื่อ Nolah ตัดสินใจเลือกผลิตภัณฑ์ใหม่ ก็จะตอบสนองความต้องการของพันธกิจ ความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย และสถานการณ์ของการแข่งขัน

โดย Stephen กล่าวว่า “เราเพิ่งเปิดตัวที่นอนและเครื่องนอนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตัวใหม่ เนื่องจากเรามองเห็นช่องว่างในตลาดสำหรับที่นอนที่เป็นธรรมชาติและยั่งยืนอย่างแท้จริง โดยผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการมากขึ้นและปลอดภัยต่อโลกมากกว่า นอกจากนี้เรายังต้องการสิ่งที่จะส่งเสริมพันธกิจของเราในการสร้างที่นอนซึ่งไม่ใช้เมมโมรีโฟมแบบดั้งเดิมที่ไม่ยั่งยืน”

ถึงแม้ Stephen จะเชื่อว่านวัตกรรมเป็นเป้าหมายที่ยอดเยี่ยม แต่ก็บอกว่า “ทุกอย่างจะไร้ความหมายหากไม่มีข้อมูลลูกค้าและการประเมินตลาดที่ถูกต้องและเป็นรูปธรรม โดยผลิตภัณฑ์ใหม่ต้องเกิดขึ้นจากพื้นฐานเดียวกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ซึ่งก็คือการแก้ปัญหาหรือตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแท้จริง โดยเน้นไปที่สิ่งที่คุณรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ของการแข่งขันและปัญหาของผู้บริโภค และพยายามเติมเต็มช่องว่างตรงนั้น”

ผลิตภัณฑ์ใหม่ต้องเกิดขึ้นจากพื้นฐานเดียวกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ซึ่งก็คือการแก้ปัญหาหรือตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแท้จริง โดยเน้นไปที่สิ่งที่คุณรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ของการแข่งขันและปัญหาของผู้บริโภค และพยายามเติมเต็มช่องว่างตรงนั้น

14. แบบสำรวจและข้อเสนอแนะจากลูกค้า

การสำรวจเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดที่จะได้ข้อมูลเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณจากกลุ่มเป้าหมาย ลองตั้งคำถามเกี่ยวกับปัญหาและอุปสรรคที่ลูกค้าต้องเจอ ผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าชอบที่สุดและเหตุผลที่ชอบ และสิ่งที่ลูกค้าต้องการเพื่อให้ชีวิตในแต่ละวันดีขึ้น

ถามคำถามแบบมีตัวเลือกและถามคำถามแบบปลายเปิดที่จะช่วยให้คุณคิดในมุมมองของผู้ตอบคำถามได้ โดยจะใช้ข้อมูลนี้เมื่อต้องระดมสมองเกี่ยวกับไอเดียธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

นี่คือเครื่องมือบางตัวที่คุณสามารถใช้สร้างและแจกจ่ายแบบสำรวจของคุณได้:

• SurveyMonkey
• Google Surveys
• Alchemer
• Zoho Survey
• Typeform

อีกวิธีหนึ่งที่จะได้คำติชมจากลูกค้าคือผ่านกลุ่ม Facebook ส่วนตัวที่มีสมาชิก VIP ซึ่งนี่เป็นกลยุทธ์ที่ CEO ของ KeySmart อย่าง Michael Tunney แนะนำในการค้นหาไอเดียผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยหลังจากที่รวบรวมคำติชมแล้ว แบรนด์จะ “นำไอเดียจากแหล่งต่างๆ มาสร้างโมเดลผลิตภัณฑ์เพื่อนำเสนอต่อพนักงานและลูกค้าชั้นดีเพื่อดูว่าพวกเขาจะคิดว่าผลิตภัณฑ์ใดที่จะประสบความสำเร็จ”

15. การระดมความคิดจากกลุ่มคน

การระดมไอเดียจากกลุ่มคนนั้นคล้ายกับการทำแบบสำรวจ ต่างกันที่การระดมไอเดียจากกลุ่มคนนั้นคุณจะต้องขอไอเดียอย่างเปิดเผยมากกว่า ซึ่ง Lego Ideas เป็นตัวอย่างที่ดีของแบรนด์ที่ใช้การระดมไอเดียจากกลุ่มคนเพื่อค้นหาไอเดียผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อขายได้

โดยผู้บริโภคสามารถส่งไอเดียจากเลโก้ของตัวเองได้ และที่เว็บไซต์ยังมีไอเดียยอดนิยมและประสบความสำเร็จอีกด้วย ลองสร้างไอเดียจากแหล่งข้อมูลสาธารณะหรือค้นหาแรงบันดาลใจจากแหล่งนี้ดูสิ

หากคุณต้องการจัดแคมเปญการระดมไอเดียของคุณเองให้กับไอเดียผลิตภัณฑ์ที่จะขาย ให้ลองดูในแหล่งนี้:

• InnoCentive
• Chaordix
• IdeaConnection

อ่านเพิ่มเติม: 13 แอป Shopify สำหรับค้นหาผลิตภัณฑ์ที่จะขาย (โดยไม่ต้องจัดส่งเอง)

16. มองย้อนกลับไปในอดีต

วิธีหนึ่งในการเรียนรู้คือการเรียนรู้จากอดีต การศึกษาประวัติศาสตร์และเทรนด์ในอดีตจะช่วยให้คุณคืนชีพไอเดียผลิตภัณฑ์ขึ้นมาขายใหม่อีกครั้ง นี่เป็นกลยุทธ์ที่ Dogfish Head Craft Brewery ใช้เมื่อทำผลิตภัณฑ์ Ancient Ales ซึ่งใช้เทคนิคการต้มเบียร์แบบเก่า

คุณอาจใช้ประวัติศาสตร์เพื่อพูดถึงกระแสวัฒนธรรมป๊อปในอดีตได้อีกด้วย โดยในแวดวงแฟชั่น เรามักจะเห็นกระแสแฟชั่นเก่าๆ ที่กลับมาอีกครั้ง และผู้บริโภคก็ชื่นชอบการหวนคิดถึงวันเก่าๆ จะเป็นสร้อยคอแบบโชกเกอร์ที่กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง หรือภาพยนตร์และรายการทีวีที่นำมาสร้างใหม่อีกมากมาย ต่างก็ทำให้ผู้บริโภคเกิดความสนใจและหลงใหลในแฟชั่นได้อีกครั้ง

คุณสามารถย้อนรำลึกถึงความทรงจำดีๆ ได้ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ไม่ขายแล้ว หรือพูดถึงเรื่องราวที่ดูเหมือนจะถูกลืมไปแล้ว ซึ่งอาจช่วยสร้างความทรงจำดีๆ ได้

ไอเดียผลิตภัณฑ์ใดบ้างที่เป็นที่ต้องการ?

นี่คือไอเดียผลิตภัณฑ์ที่กำลังมาแรงที่สุดตามข้อมูลการขายของ Shopify

1. ของเล่น
2. รองเท้า
3. ปากกาและดินสอ
4. ขวดตกแต่ง
5. สว่าน
6. เครื่องตัด
7. ระบบนำทาง GPS
8. วิตามินและอาหารเสริม
9. ชิ้นส่วนรถยนต์
10. เก้าอี้สำนักงาน
11. โปรเจคเตอร์
12. ผ้าขนหนูในครัว
13. งานศิลปะดิจิทัล
14. ผลิตภัณฑ์ตกแต่งคิ้ว
15. ป้ายไฟนีออน
16. แท็บเล็ต
17. ขวดน้ำ

มีผลิตภัณฑ์เพียง 40% ของผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นเท่านั้นที่จะเข้าสู่ตลาด และจาก 40% ตรงนี้ มีเพียง 60% เท่านั้นที่จะสามารถขายได้จริง การขายผลิตภัณฑ์ที่มีความต้องการในตลาดสูงอาจทำให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวก็ได้ โดยเฉพาะในช่วงเริ่มธุรกิจแล้ว คุณก็คงไม่อยากเสียเงินไปกับการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีใครซื้อ

ดูรายการข้างต้นเพื่อใส่ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ไว้ในร้านค้าของคุณผ่านผู้จัดส่งเช่น DSers หรือคุณสามารถสร้างนวัตกรรมในผลิตภัณฑ์เหล่านี้และสร้างผลิตภัณฑ์ที่พิเศษสำหรับพันธกิจของแบรนด์ ความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย และสถานการณ์ของการแข่งขัน

คุณสามารถดูผลิตภัณฑ์ที่กำลังมาแรงที่สุดที่จะขาย เพื่อหาแรงบันดาลใจเพิ่มได้

คิดค้นไอเดียผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยม

ไม่ว่าคุณจะเป็นสตาร์ทอัพอีคอมเมิร์ซหรือผู้มีประสบการณ์ในวงการ สิ่งสำคัญคือการคิดค้นไอเดียผลิตภัณฑ์จริงและแบบดิจิทัลตามตลาดเป้าหมายของคุณ ไอเดียผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมจะทำให้การพัฒนาผลิตภัณฑ์ง่ายขึ้น ช่วยให้คุณนำหน้าคู่แข่ง สร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า และสร้างยอดขายได้มากขึ้น

ตอนนี้คุณมีแหล่งข้อมูลพร้อมที่จะคิดค้นไอเดียผลิตภัณฑ์ที่ตลาดต้องการได้แล้ว ออกค้นหาและเรียนรู้ได้เลย!

ภาพประกอบโดย Pete Ryan

จากผู้ขายมือใหม่ไปจนถึงผู้ค้าปลีกระดับโลก Shopify เหมาะสำหรับทุกคน ดูแพ็คเกจและราคา