วิธีหาแหล่งรับของมาขายออนไลน์ รวมลิสต์และเครื่องมือเจ๋งๆ เพียบ

ถ้าคุณไม่มีของมาขาย การเริ่มทำธุรกิจก็อาจเป็นเรื่องยาก ซึ่งถ้าคุณไม่ได้ผลิตสินค้าเอง คุณก็ต้องหาผู้จัดจำหน่าย (หรือซัพพลายเออร์) ที่ดีซึ่งสามารถจัดหาหรือผลิตสินค้าที่ลูกค้าต้องการได้

ข่าวดีคือ การเริ่มทำธุรกิจบน Shopify นั้นมีตัวเลือกการจัดหาสินค้าให้คุณได้ใช้มากมาย ไม่ว่าจะใช้ผู้จัดจำหน่ายที่มีการค้าปลีกแบบครบวงจรหรือแบบดรอปชิป คุณก็สามารถหาสินค้าที่กำลังได้รับความนิยมมาเข้าร้านของคุณได้ และยังสามารถร่วมมือกับผู้จัดจำหน่ายที่เชี่ยวชาญในสินค้าเฉพาะทางหรือจะขายสินค้าแบบคัสตอมเมดก็ได้

ถ้าพร้อมจะหาสินค้าทำเงินดี ๆ มาขายในธุรกิจของคุณแล้ว นี่คือคู่มือสำหรับคุณที่จะบอกวิธีที่ดีที่สุดในการค้นหาสินค้า และยังมีแอป 8 แอปที่จะเชื่อมโยงระหว่างผู้จัดจำหน่ายที่มีศักยภาพกับร้านค้า Shopify เข้าด้วยกัน

การจัดหาสินค้าคืออะไร?

การจัดหาสินค้าคือการค้นหาและจัดหาสินค้าเพื่อนำไปขายให้กับลูกค้าเพื่อทำกำไร ซึ่งอาจเป็นการซื้อสินค้าจากผู้ผลิตโดยตรง การร่วมมือกับผู้ค้าส่ง หรือการสั่งทำสินค้าตามความต้องการ

บางครั้งการจัดหาสินค้าจะใช้โมเดลการจัดหาแบบดรอปชิป ซึ่งหมายความว่าผู้จัดจำหน่ายของคุณจะบริหารจัดการสต็อกสินค้าและจัดส่งคำสั่งซื้อไปที่ลูกค้าของคุณโดยตรง

แหล่งรับของมาขายออนไลน์ มีที่ไหนบ้าง?

เรามี 5 แหล่งรับของมาขายออนไลน์ยอดนิยม มีดังนี้

ผู้ค้าส่ง

ถ้าคุณต้องการเริ่มธุรกิจอย่างรวดเร็ว การซื้อของจากผู้ค้าส่งอาจเป็นกลยุทธ์ที่ดี

การเลือกแหล่งรับของมาขายออนไลน์เป็นผู้ค้าส่ง หมายถึงการซื้อสินค้าจำนวนมากจากผู้ผลิต ตลาด หรือผู้จัดจำหน่ายโดยตรง ซึ่งช่วยให้คุณได้ประโยชน์จากราคาที่ต่ำกว่า การซื้อสินค้าจากผู้ค้าส่งช่วยให้คุณสามารถหาของมาขายในร้านได้อย่างรวดเร็วและเริ่มขายได้โดยไม่ต้องรอการผลิตหรือการจัดส่งก่อนที่จะส่งคำสั่งซื้อให้กับลูกค้า

ผู้ค้าปลีกมักจะทำกำไรได้มากกว่า 50% เมื่อขายสินค้าที่รับจากผู้ค้าส่งมาขาย โดยการซื้อได้ในราคาที่ต่ำนั้นเกิดจากการสั่งซื้อครั้งละเป็นจำนวนมากและการเจรจาต่อรองราคาต่อหน่วยที่ต่ำกว่า

ข้อเสียของการจัดหาสินค้าผ่านผู้ค้าส่งคือคุณจะต้องมีแหล่งจัดเก็บและจัดการสต็อกสินค้า รวมถึงกระแสเงินสดเพื่อจ่ายค่าสินค้าล่วงหน้า (ยกเว้นว่าคุณจะสามารถกำหนดแผนการชำระเงินได้)

ผู้จัดจำหน่ายดรอปชิป

ดรอปชิปไม่ใช่แค่เทคนิคการจัดหาสินค้า แต่ยังเป็นวิธีการบริหารจัดการคำสั่งซื้อด้วย ในการเป็นดรอปชิปเปอร์ คุณไม่จำเป็นต้องมีสินค้าในสต็อกหรือบริหารจัดการเรื่องการจัดส่งเลย แต่คุณจะร่วมมือกับผู้จัดจำหน่ายดรอปชิปที่ดูแลการจัดเก็บและการจัดส่งสินค้าให้กับคุณ

ซึ่งกระบวนการนั้นก็ไม่ซับซ้อน มีแค่

• ค้นหาผู้จัดจำหน่ายดรอปชิปที่เชื่อถือได้
• เพิ่มสินค้าของผู้จัดจำหน่ายดรอปชิปลงในร้านของคุณ
• ทำการตลาดให้กับร้านค้าและสินค้าของคุณให้กับลูกค้า
• เมื่อคุณได้รับคำสั่งซื้อ ผู้จัดจำหน่ายจะได้รับการแจ้งข้อมูลและจะจัดการเรื่องการจัดส่ง

หลัก ๆ แล้วการทำงานกับผู้จัดจำหน่ายดรอปชิปจะมีอยู่ 2 วิธีดังนี้

• ทำงานกับผู้จัดจำหน่ายดรอปชิปโดยตรง - คุณสร้างกระบวนการของคุณเองในการบริหารจัดการคำสั่งซื้อและการสื่อสารกับผู้จัดจำหน่าย
• ใช้แอปดรอปชิป - แอปจะเชื่อมคุณเข้ากับตลาดของผู้จัดจำหน่ายที่มีระบบที่จัดทำขึ้นเพื่อส่งต่อคำสั่งซื้อของลูกค้า คุณสามารถจัดการซัพพลายเออร์หลายรายได้อย่างสะดวกในที่เดียว

ผู้ผลิต

แหล่งรับของมาขายออนไลน์ตรงจากผู้ผลิต มีอยู่ 2 วิธีดังนี้

1. สั่งซื้อสินค้าภายใต้แบรนด์ของคุณ

สินค้าภายใต้แบรนด์เป็นสินค้าทั่วไปที่ผลิตโดยผู้ผลิต ซึ่งสามารถนำมาใส่ชื่อแบรนด์หรือโลโก้ธุรกิจของคุณเองได้

เรียนรู้เพิ่มเติม: 13 สินค้าผลิตภายใต้แบรนด์ที่ดีที่สุดสำหรับขายในปี 2024

2. สินค้าภายใต้แบรนด์เฉพาะ

ผู้ผลิตสามารถผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์เฉพาะให้กับธุรกิจของคุณได้ โดยคุณอาจขอใช้ตราสินค้า วัสดุ ส่วนผสม และคุณสมบัติพิเศษเพื่อให้สินค้าของคุณแตกต่างจากสินค้ารุ่นอื่นได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตและสินค้า 

เรียนรู้เพิ่มเติม: วิธีหาสินค้าภายใต้แบรนด์เฉพาะและเริ่มขาย

การทำงานร่วมกับผู้ผลิตช่วยให้ควบคุมการสร้างแบรนด์และกำหนดราคาได้มากขึ้น คุณสามารถรับประกันคุณภาพของสินค้าในขั้นสุดท้ายได้ ซึ่งอาจเป็นเรื่องยากสำหรับวิธีการจัดหาอื่น ๆ เช่น การดรอปชิป ที่ถึงแม้จะมีค่าใช้จ่ายล่วงหน้า แต่การผลิตอาจส่งผลให้ต้นทุนต่อหน่วยลดลงและได้กำไรมากขึ้นได้

ในขณะที่ข้อเสียคือปริมาณการสั่งซื้อขั้นต่ำซึ่งผู้ผลิตมักกำหนดไว้และอาจต้องลงทุนล่วงหน้าหลายหมื่นบาท นอกจากนี้ กระบวนการสร้างต้นแบบ การสุ่มตัวอย่าง การปรับแต่ง และการผลิตสินค้าอาจใช้เวลานาน

งานแสดงสินค้า

งานแสดงสินค้าเป็นอีเวนท์ที่ธุรกิจต่าง ๆ มารวมตัวกันเพื่อแสดงสินค้าและบริการใหม่ล่าสุด กิจกรรมเหล่านี้มักจัดขึ้นในศูนย์การประชุมในเมืองใหญ่และใช้เวลาหลายวัน นอกจากนี้ยังมีงานแสดงสินค้าขนาดเล็กในท้องถิ่นที่มีธุรกิจในภูมิภาคนั้น ๆ มารวมตัวกันอีกด้วย

การเข้าร่วมงานแสดงสินค้าเป็นโอกาสที่จะได้สัมผัสสินค้าจริง สร้างเครือข่ายกับเจ้าของธุรกิจ และหาแรงบันดาลใจสำหรับไอเดียสินค้าใหม่

สร้างสินค้าของคุณเอง

หากคุณเริ่มธุรกิจจากความหลงใหลหรือความเชี่ยวชาญ คุณก็สามารถสร้างสินค้าของคุณเองได้โดยไม่ต้องอาศัยการจัดหาเลย จะเป็นสินค้าความงาม เสื้อผ้า หรือเครื่องประดับ การทำสินค้าด้วยมือช่วยให้คุณควบคุมคุณภาพและแบรนด์ได้อย่างเต็มที่

แต่สิ่งสำคัญที่ต้องรู้คือวิธีนี้อาจใช้เวลานานและยากต่อการขยายธุรกิจ เมื่อทำสินค้าของคุณเอง ให้คิดถึงค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น วัสดุ การจัดเก็บ และแรงงานด้วย

คำแนะนำคือให้เริ่มต้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปด้วยสินค้าทำมือเพียงตัวเดียวและค่อย ๆ ขยายธุรกิจของคุณ ตัวอย่างเช่น ครูวิทยาศาสตร์ Kyle LaFond ที่เริ่มต้นธุรกิจเพื่อการดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลของเขาอย่าง American Provenance จากการทำโรลออนธรรมชาติของเขาเอง

รวม 8 แอปแหล่งรับของมาขายออนไลน์ Shopify

นี่คือแอปที่จะช่วยให้คุณหาของมาขายในร้านของคุณ ซึ่งจะช่วยให้กระบวนการจัดหาสินค้าเป็นไปอย่างคล่องตัว

1. Faire
2. Printful
3. DSers
4. Spocket
5. Syncee
6. Creative Hub
7. My Online Fashion Store
8. Lulu Direct

1. Faire

แหล่งรับของมาขายออนไลน์อย่าง Faire ช่วยให้คุณสามารถค้นหาสินค้าสำหรับบ้าน เสื้อผ้า ความงาม และไลฟ์สไตล์ และดูข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับสินค้าและผู้ผลิตก่อนซื้อ

แบรนด์อิสระแต่ละแบรนด์ที่อยู่บน Faire จะได้รับการตรวจสอบโดยทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าปลีก ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงสำหรับผู้ค้าปลีกเมื่อทำงานร่วมกับซัพพลายเออร์รายใหม่ และผู้ค้าปลีกที่มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขยังสามารถซื้อตอนนี้ จ่ายทีหลัง และมีเวลาถึง 60 วันในการชำระเงินค่าสินค้าที่สั่งซื้ออีกด้วย

Faire มีสินค้าที่หลากหลาย ทำให้แอปจัดหาสินค้านี้เป็นช่องทางที่เหมาะกับการค้นหาสินค้าขายดีชิ้นต่อไปไม่ว่าคุณจะขายในตลาดไหนก็ตาม นี่คือสินค้ายอดนิยมบางส่วนที่คุณสามารถหามาขายได้จาก Faire

• ของตกแต่งบ้าน
• อาหารและเครื่องดื่ม
• ความงามและสุขภาพ
• เครื่องประดับ

Faire มีการผสานการทำงานกับ Shopify อย่างเต็มรูปแบบผ่าน แอป Faire ดังนั้นคุณสามารถจัดการคำสั่งซื้อได้อย่างราบรื่น

2. Printful

Printful เป็นบริษัทรับพิมพ์ตามสั่งที่ให้คุณเลือกจากแค็ตตาล็อกสินค้าหลายรายการเพื่อผลิตสินค้าตามการออกแบบของคุณเอง

ตัวเลือกการปรับแต่งอาจมีมากมาย รวมถึงสี ดีไซน์ และกราฟิกที่ออกแบบเองได้ และสามารถติดแบรนด์บนสติกเกอร์สินค้า แทรกในบรรจุภัณฑ์ และฉลากได้ โดยขึ้นอยู่กับประเภทของสินค้า

และคุณยังสามารถสั่งซื้อสินค้าตัวอย่างในราคาที่ลดลงได้ เพื่อเป็นการยืนยันคุณภาพของสินค้าก่อนที่คุณจะโปรโมตสินค้าด้วยแบรนด์ของคุณเอง

ประเภทสินค้าที่คุณสามารถหาได้ผ่านแหล่งรับของมาขายออนไลน์ Printful มีดังนี้

• เสื้อยืด
• โปสเตอร์
• หมวกปัก
• ถุงเท้า
• เคสโทรศัพท์
• หมอน
• แจ็คเก็ต
• (และอื่นๆ)

3. DSers

DSers จะช่วยให้คุณจัดหาและดรอปชิปสินค้าจากตลาดผู้จัดจำหน่ายที่ตั้งอยู่ในจีนอย่าง AliExpress ได้

เมื่อคุณพบสินค้าบน AliExpress ที่คุณต้องการขาย คุณสามารถใช้แอป DSers เพื่อเพิ่มสินค้านั้นเข้ามาในร้าน Shopify ของคุณและส่งคำสั่งซื้อของลูกค้าไปยังผู้จัดจำหน่ายโดยตรง

เมื่อใช้ DSers และ AliExpress Dropshipping คุณสามารถเลือกสินค้าได้หลายล้านรายการในเกือบทุกตลาดเฉพาะทางเท่าที่คุณจะนึกได้ ใช้เครื่องมือการจัดการสต็อกของ Shopify เพื่อให้คุณมองเห็นระดับจำนวนสินค้าในสต็อกและกำไรของคุณได้อย่างชัดเจน

โดยแนวคิดธุรกิจตรงนี้คือการใช้ DSers เพื่อคัดเลือกสินค้าสำหรับร้านค้าออนไลน์ที่มีแบรนด์ที่ให้บริการกลุ่มเป้าหมายเฉพาะทาง เช่น อุปกรณ์สำหรับเจ้าของสัตว์เลี้ยงหรืออุปกรณ์ถ่ายภาพสำหรับการเดินทาง

สิ่งที่ดีที่สุดคือ DSers จะให้ข้อมูลว่าสินค้าแต่ละชิ้นนั้นขายดีแค่ไหน เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้องว่าจะเพิ่มอะไรลงในร้านค้าของคุณ

ประเภทสินค้าที่คุณสามารถหาได้ผ่านแหล่งรับของมาขายออนไลน์ DSers มีดังนี้

• เสื้อผ้า
• อุปกรณ์เสริม
• ของใช้ในบ้าน
• อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
• อุปกรณ์เสริมโทรศัพท์

4. Spocket

Spocket เป็นเว็บไซต์และแอปจัดหาสินค้าอีกตัวที่ทำให้การค้นหาสินค้าจากผู้จัดจำหน่ายดรอปชิปง่ายขึ้น

หนึ่งในข้อดีของการใช้ Spocket คือไดเรกทอรีขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป เนื่องจากซัพพลายเออร์ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศ Spocket จึงสามารถจัดส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็วเป็นพิเศษสำหรับแพลตฟอร์มดรอปชิป

Sprocket มีส่วนลดสินค้าสูงสุดถึง 40% ด้วยระบบราคาขายส่งที่ตกลงกันไว้ล่วงหน้า ทำให้มีกำไรสูงขึ้น โดยอาจสั่งซื้อตัวอย่างสินค้าจากแดชบอร์ดเพื่อยืนยันคุณภาพก่อนจำหน่ายได้

ประเภทสินค้าที่คุณสามารถหาได้ผ่านแหล่งรับของมาขายออนไลน์ Spocket มีดังนี้

• ต่างหู
• เสื้อผ้า
• อุปกรณ์กีฬา
• รองเท้า
• สินค้าสำหรับการอาบน้ำและความงาม

5. Syncee

Syncee ช่วยให้คุณสามารถเรียกดูแค็ตตาล็อกของผู้จัดจำหน่ายที่เชื่อถือได้จากทั่วโลกและนำเข้าสินค้าไปยังร้านของคุณเพื่อเริ่มขายได้อย่างง่ายดาย

ประเภทสินค้าที่คุณสามารถหาได้ผ่านแหล่งรับของมาขายออนไลน์ Syncee ได้แก่

• สินค้าสำหรับเด็ก
• นาฬิกา
• แฟชั่น
• ของเล่น
• อุปกรณ์ตกปลา
• น้ำหอม

6. Creative Hub

Creative Hub คือแหล่งที่คุณจะสามารถขายงานศิลปะออนไลน์จากศิลปินที่ได้รับความนิยมและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ได้ โดยเว็บไซต์จัดหาสินค้าจากสหราชอาณาจักรแห่งนี้ช่วยให้ธุรกิจของคุณเข้าถึงผลงานของศิลปินร่วมสมัยได้

สำหรับสินค้าแต่ละชิ้น คุณจะได้รับแจ้งราคาขายปลีก (ราคาขั้นต่ำที่คุณสามารถขายสินค้าได้) และส่วนแบ่งของคุณในฐานะผู้ขาย (จำนวนเงินที่คุณจะได้รับจากราคาขายปลีก) ในขณะที่ผลงานพิมพ์บางชิ้นมีจำนวนจำกัด ดังนั้นจึงมีราคาที่สูงกว่า

มีค่าจัดส่งระหว่างประเทศในอัตราแบบคงที่ ซึ่งทำให้การจัดส่งเป็นเรื่องง่ายและให้คุณขายให้กับใครก็ได้ทุกที่ในโลก และคุณยังสามารถพิมพ์โลโก้ของคุณบนฉลากบรรจุภัณฑ์ รวมถึงเพิ่มข้อมูลลงในคำสั่งซื้อของคุณพร้อมข้อมูลเกี่ยวกับศิลปินหรือธุรกิจของคุณได้อีกด้วย

ประเภทสินค้าที่คุณสามารถหาได้ผ่านแหล่งรับของมาขายออนไลน์ Creative Hub มีดังนี้

• งานพิมพ์ศิลปะ giclée และ C-type
• งานพิมพ์กรอบ
• งานพิมพ์ผ้าใบ

7. My Online Fashion Store

My Online Fashion Store คือผู้จัดส่งสินค้าแบบดรอปชิปจากสหรัฐอเมริกาที่มีสินค้าสำหรับผู้หญิงมากมาย ตั้งแต่เสื้อผ้าไปจนถึงเครื่องประดับและรองเท้า โดยสินค้ามากกว่า 6,000 รายการ และยังมีการแนะนำราคาขายเพื่อช่วยให้คุณกำหนดอัตรากำไรได้

แอปจัดหาสินค้านี้มีบริการคืนสินค้าฟรีและอัตราค่าจัดส่งที่เทียบเท่ากับราคาตลาดจากคลังสินค้าในลอสแองเจลิส แต่ว่าแอปนี้จะจัดส่งเฉพาะคำสั่งซื้อสำหรับลูกค้าที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น

ประเภทสินค้าที่คุณสามารถหาได้ผ่านแหล่งรับของมาขายออนไลน์ My Online Fashion Store คือ

• ผ้าพันคอ
• เสื้อกล้าม
• ชุดชั้นใน
• แว่นกันแดด
• กระเป๋าถือ
• หมวก
• เข็มขัด

8. Lulu Direct

Lulu Direct จะเน้นที่หนังสือและปฏิทิน ซึ่งคุณสามารถใช้บริการพิมพ์ตามสั่งเพื่อเปิดตัวสินค้าหนังสือของคุณเอง โดยสามารถเลือกรูปแบบและขนาดของหนังสือได้ทั้งปกแข็งหรือปกอ่อน หมึกสีหรือขาวดำ รวมถึงคุณภาพของกระดาษ

ถ้าคุณมีไอเดียที่จะเอาหนังสือขายดีสักเล่มไปวางบนโต๊ะกาแฟ Lulu Direct ก็เป็นวิธีทดลองไอเดียที่มีความเสี่ยงต่ำก่อนที่จะลงทุน

นี่คือประเภทของหนังสือที่คุณสามารถทำได้

• หนังสือภาพปกแข็ง
• นวนิยาย
• การ์ตูน
• หนังสือทำงาน
• ปฏิทิน
• สมุดบันทึกและโน้ตบุ๊ค

ค้นหาผู้จัดหาหนังสือแบบกำหนดเองเพิ่มเติม: 10 ผู้ให้บริการที่ดีที่สุดสำหรับหนังสือที่พิมพ์ตามสั่ง

แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการหาของมาขาย

นี่คือแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดเพื่อให้การหาของมาขายในธุรกิจอีคอมเมิร์ซของคุณประสบความสำเร็จ

ศึกษาตลาด

การวิจัยตลาดช่วยให้คุณเข้าใจความต้องการและความชอบของกลุ่มเป้าหมายของคุณ และยังบอกคุณด้วยว่าธุรกิจอื่น ๆ กำลังแข่งขันกันเพื่อให้บริการกับผู้ที่มีแนวโน้มเป็นลูกค้าของคุณหรือไม่

คุณสามารถตัดสินใจเกี่ยวกับการจัดหาหรือพัฒนาสินค้าได้อย่างรอบรู้ด้วยการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล บริษัท และอุตสาหกรรมของคุณ

เมื่อทำการศึกษาตลาดสำหรับการจัดหาสินค้า นี่คือประเด็นที่คุณต้องให้ความสำคัญ

แนวโน้มในอุตสาหกรรม

คอยติดตามแนวโน้มหรือเทรนด์ล่าสุดในอุตสาหกรรมของคุณเพื่อค้นหาโอกาสใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นและปรับการนำเสนอสินค้าของคุณให้เหมาะสม คอยจับตาดูการเปลี่ยนแปลงในตลาดของคุณว่าตอนนี้สินค้าใดได้รับความนิยมสูงสุด และสินค้าใดที่ความนิยมลดลง

ความต้องการของผู้บริโภค

ทำความเข้าใจความต้องการ ความชอบ และปัญหาของกลุ่มเป้าหมายเพื่อเลือกสินค้าที่ตรงตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย สินค้าของคู่แข่งตอบสนอง (หรือไม่ตอบสนอง) ความต้องการของลูกค้าได้อย่างไร

แนวโน้มทางกฎหมาย

ติดตามกฎระเบียบหรือกฎหมายต่าง ๆ ที่อาจส่งผลต่อสินค้าที่คุณหามาขาย เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดและหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้นได้ ตัวอย่างเช่น หากคุณกำลังจัดหาสินค้าเพื่อความงาม คุณจะต้องคอยปรับเปลี่ยนข้อมูลในเรื่องของกฎระเบียบเกี่ยวกับความปลอดภัยของส่วนผสม ข้อกำหนดการติดฉลาก และการทดสอบสินค้า

การทราบข้อมูลนี้จะช่วยให้คุณเลือกสินค้าได้อย่างเหมาะสมได้ก่อนที่จะจัดหาซัพพลายเออร์

ข้อมูลนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจปัญหาหรือโอกาสต่าง ๆ เช่น หากผ้าที่พัฒนาขึ้นใหม่ช่วยให้นักเดินป่าระบายเหงื่อและแห้งสบายได้หลายชั่วโมง ร้านขายเสื้อผ้าสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งของคุณอาจต้องการจัดหาสินค้าที่ทำจากผ้าชนิดนี้

2 วิธีหลัก ๆ ในการศึกษาตลาดมีดังนี้

1. การศึกษาขั้นต้น

ทำการศึกษาวิจัยด้วยการสั่งซื้อและทดสอบสินค้าด้วยตนเอง หรือทำการสำรวจและสัมภาษณ์กับลูกค้า

2. การศึกษาจากข้อมูลที่มีอยู่แล้ว

รวบรวมข้อมูลที่มีการเปิดเผยต่อสาธารณะจากแหล่งต่าง ๆ เช่น นิตยสาร รายงานของรัฐบาล นักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรมนั้น ๆ และสิ่งพิมพ์ทางการค้า

ขอตัวอย่าง

เมื่อคุณเจอสินค้าและซัพพลายเออร์ที่เชื่อถือได้แล้ว สิ่งสำคัญคือต้องขอตัวอย่างหรือต้นแบบก่อนที่จะตัดสินใจสั่งซื้อเป็นจำนวนมาก

การขอตัวอย่างช่วยให้คุณประเมินคุณภาพสินค้าที่คุณวางแผนจะนำไปใช้สร้างชื่อเสียงให้กับแบรนด์ของคุณได้ ถึงแม้สินค้าของคุณจะดูดีในรูปถ่าย แต่คุณก็ต้องมั่นใจว่าสินค้านั้นดีพอที่จะขายให้กับลูกค้าได้

การขอตัวอย่างยังช่วยให้คุณประเมินความสามารถของซัพพลายเออร์ในแง่ของการสื่อสาร การควบคุมคุณภาพ การประมวลผลคำสั่งซื้อ การขนส่ง และบรรจุภัณฑ์ คุณจะเข้าใจว่าพวกเขาสื่อสารข้อมูลการจัดส่งและบรรจุภัณฑ์สินค้าอย่างไร การสั่งตัวอย่างหลายรายการภายใต้ชื่อที่แตกต่างกันยังช่วยให้คุณตรวจสอบความสม่ำเสมอของสินค้าได้อีกด้วย

คุณควรพิจารณาด้วยเกณฑ์ชี้วัดต่อไปนี้

• ตรงเวลาและครบถ้วน (On-Time, In-Full): การวัดเปอร์เซ็นต์ของคำสั่งซื้อที่ส่งมอบตามกำหนดเวลาและครบถ้วน ซึ่งบ่งบอกถึงความน่าเชื่อถือของซัพพลายเออร์
• อัตราข้อบกพร่อง: ติดตามคุณภาพโดยตรวจสอบว่าสินค้ามีปัญหาบ่อยเพียงใด ซึ่งจะช่วยให้คุณประเมินความสม่ำเสมอได้
• ระยะเวลาดำเนินการ: การทำความเข้าใจระยะเวลาในการประมวลผลคำสั่งซื้อและการจัดส่งโดยทั่วไปของซัพพลายเออร์แต่ละรายจะช่วยให้คุณวางแผนคลังสินค้าและคาดการณ์ความล่าช้าที่อาจเกิดขึ้นได้

Tyler Rybacki อดีตผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาสินค้าของบริษัทกาแฟแบบสมัครสมาชิก Jot เน้นย้ำถึงความสำคัญของการสั่งซื้อตัวอย่างก่อนที่จะตัดสินใจขั้นสุดท้าย โดยกล่าวว่า

“สินค้าตัวอย่างช่วยให้คุณตรวจสอบระดับคุณภาพได้ เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าทุกคำสั่งซื้อนั้นคุ้มค่ากับการลงทุนของคุณ การมีตัวอย่างสินค้าติดตัวไว้ยังมีประโยชน์ในการถ่ายภาพสินค้าเพื่อใช้ในสื่อการขายและการตลาด รวมถึงเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของคุณด้วย”

“ควรสั่งสินค้าตัวอย่างก่อนตัดสินใจสั่งซื้อเสมอ”

เมื่อขอตัวอย่างสินค้า โปรดจำไว้ว่า

• ระบุข้อมูลจำเพาะของสินค้าโดยละเอียด รวมถึงสีหรือรูปแบบที่ต้องการ
• ขอให้ซัพพลายเออร์ติดฉลากบนบรรจุภัณฑ์ตัวอย่างว่า “ไม่มีมูลค่าทางการค้า” เพื่อที่จะไม่ต้องเสียภาษีศุลกากรเมื่อสั่งซื้อจากต่างประเทศ
• ขอให้มีแท็กบริษัทและหมายเลขรุ่นสินค้าเพื่อแยกความแตกต่างระหว่างตัวอย่างขณะที่ทดสอบ

Tyler แนะนำให้จัดหาตัวอย่างจากซัพพลายเออร์ 5 รายเพื่อประเมินคุณภาพ ราคา และบริการ ด้วยการสั่งซื้อตัวอย่างในสีและรูปแบบที่แตกต่างกัน คุณสามารถตัดสินใจได้ว่าสินค้าและซัพพลายเออร์รายใดที่สอดคล้องกับกลยุทธ์การจัดหาของคุณมากที่สุด

ถ้าเป็นไปได้ ใช้แหล่งรับของมาขายออนไลน์ที่อยู่ใกล้คุณ

การจัดหาในท้องถิ่นหมายถึงการจัดหาสินค้าจากซัพพลายเออร์ในประเทศแทนที่จะเป็นซัพพลายเออร์ต่างประเทศ "ในท้องถิ่น" อาจหมายถึงชุมชนใกล้เคียงหรือประเทศบ้านเกิดของคุณ การจัดหาในท้องถิ่นสามารถลดต้นทุนระบบซัพพลายสินค้า ช่วยให้คุณเปิดตัวสินค้าได้เร็วขึ้น และสร้างรายได้มากขึ้น

Stephen Light เจ้าของร่วมของบริษัทผลิตที่นอน Nolah Sleep ได้ร่วมงานกับซัพพลายเออร์ทั้งในประเทศและต่างประเทศเพื่อจัดหาที่นอนให้กับบริษัทของเขา เขาพบว่าการเปลี่ยนไปใช้ซัพพลายเออร์ในท้องถิ่นช่วยให้ Nolah Sleep หลีกเลี่ยงปัญหาระบบซัพพลายสินค้าทั่วโลกและควบคุมกระบวนการจัดซื้อได้ดีขึ้น

“ซัพพลายเออร์วัตถุดิบในภูมิภาคของคุณมีแนวโน้มที่จะตอบสนองต่อความต้องการในแง่ของธุรกิจได้ดีกว่า และสามารถจัดส่งและประสานงานการจัดส่งได้ภายในกรอบเวลาที่สั้น”

และคุณยังสามารถตรวจสอบสินค้าด้วยตนเองกับซัพพลายเออร์ในท้องถิ่นได้อีกด้วย

ทำงานกับผู้จัดจำหน่ายหลายราย

การทำงานร่วมกับซัพพลายเออร์รายเดียวทำให้การจัดหาสินค้าเป็นเรื่องง่าย ในขณะที่การมีซัพพลายเออร์เป็นแหล่งรับของมาขายออนไลน์หลายๆ รายอาจทำให้การจัดการคำสั่งซื้อซับซ้อนขึ้น

แต่กลยุทธ์การใช้ผู้จัดจำหน่ายหลายรายสามารถลดความเสี่ยงในระบบซัพพลายสินค้าและช่วยตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้

ตามที่ Stephen กล่าวว่าการที่จะ “กระตือรือร้นและสร้างความสัมพันธ์กับซัพพลายเออร์หลายราย รวมถึงซัพพลายเออร์สำรอง” นั้นเป็นไอเดียที่ดีสำหรับธุรกิจ การมีรายชื่อซัพพลายเออร์ที่ได้คัดเลือกไว้จะช่วยให้ธุรกิจของคุณมีแผนที่สองในกรณีที่สินค้าเกิดขาดแคลนและมีความล่าช้า

การทำงานร่วมกับแหล่งรับของมาขายออนไลน์ที่เป็นซัพพลายเออร์ที่มีคุณภาพสูงจะช่วยความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับกลยุทธ์การใช้ซัพพลายเออร์หลายรายได้ โดยก่อนที่จะร่วมงานกับซัพพลายเออร์ ให้ประเมินเกณฑ์ต่อไปนี้

• คุณภาพสินค้า
• เวลาจัดส่งและระยะเวลาดำเนินการ
• การคืนสินค้า
• ข้อบกพร่อง
• ข้อร้องเรียนจากลูกค้า
• ความสามารถในการผลิต

Aaron Alpeter ผู้ก่อตั้ง Izba บริษัทที่ปรึกษาด้านระบบซัพพลายสินค้า การเอาท์ซอร์ส และเทคโนโลยี แนะนำให้คิดถึงเป้าหมายในระยะยาวของคุณเมื่อต้องประเมินซัพพลายเออร์ โดยกล่าวว่า

“เพื่อไม่ให้กระแสเงินสดจากกำลังการผลิตหรือคลังสินค้าของซัพพลายเออร์เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของคุณ ให้ลองนึกถึงสิ่งที่คุณต้องการภายในกรอบเวลาสองปีข้างหน้าและปรับให้เหมาะสม”

“จากนั้น ในอีกไม่กี่เดือน ให้ทบทวนการคาดการณ์นั้นและดูว่าความต้องการของคุณเปลี่ยนไปหรือไม่ เมื่อทำเช่นนี้ คุณจะพบปัญหาการขาดแคลนกำลังการผลิตก่อนที่ปัญหาจะเกิดขึ้น และจะสามารถลงทุนในด้านกำลังการผลิตใหม่หรือความสัมพันธ์ใหม่ได้ โดยที่ไม่ต้องมานั่งมองกองสินค้าในคลังขนาดมหึมาที่ขายไม่ได้”

ความสัมพันธ์กับซัพพลายเออร์เป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขัน ดังนั้น หากคุณรู้สึกว่าซัพพลายเออร์ไม่ตอบโจทย์ที่คุณต้องการ ให้พิจารณาถึงความสัมพันธ์ตรงนี้อีกครั้ง การเจรจาสัญญาใหม่และการมองหาตัวเลือกอื่น ๆ เป็นส่วนหนึ่งของการเป็นเจ้าของธุรกิจค้าปลีก

ไม่มีของขาย ไม่ใช่ปัญหา

ด้วยการเพิ่มขึ้นของตลาดออนไลน์และแอปดรอปชิป การจัดหาสินค้าจึงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป แพลตฟอร์มและกลยุทธ์ต่าง ๆ ในบทความนี้ควรช่วยให้คุณค้นหาสินค้าที่เหมาะสมเพื่อเปลี่ยนไอเดียธุรกิจขนาดเล็กของคุณให้เป็นจริง หรือให้วิธีการขยายกลุ่มสินค้าที่สามารถนำไปใช้ได้จริง หวังว่าคุณจะประสบความสำเร็จในการหาของมาขาย!

ภาพประกอบโดย Gracia Lam