บ่อยครั้งที่ความสำเร็จในธุรกิจอีคอมเมิร์ซเริ่มจากงานอดิเรก
หนึ่งในงานอดิเรกที่คุณสามารถเปลี่ยนเป็นไอเดียธุรกิจออนไลน์ได้คือการทำงานไม้แฮนด์เมด ซึ่งการทำงานไม้แฮนด์เมดให้เป็นสินค้าที่ขายได้นั้นคุณไม่จำเป็นต้องเป็นช่างไม้ฝีมือดีเลย เพราะมีงานไม้แฮนด์เมดยอดนิยมมากมายที่ไม่ว่าจะเป็นใครก็สามารถทำขายได้ เพียงแค่ต้องหาว่างานไม้แฮนด์เมดแบบไหนที่เหมาะกับคุณและกลุ่มเป้าหมายที่คุณต้องการเจาะตลาดคือใคร
อ่านต่อเพื่อเรียนรู้ว่างานไม้แฮนด์เมดปบบไหนที่มีกำไรสูง รวมถึงสิ่งที่คุณต้องมีเพื่อที่จะเริ่มทำธุรกิจนี้ สำหรับงานไม้แฮนด์เมดบางงานคุณอาจใช้แค่กาวไม้และไม้คุณภาพดีไม่กี่ชิ้นเท่านั้นเอง
หลังจากอ่านบทความนี้จบแล้ว คุณจะสามารถเริ่มสร้างธุรกิจงานฝีมือของคุณเองได้เลย
12 งานไม้แฮนด์เมดที่ขายได้ในปี 2025
- ป้ายไม้
- พาเลทไม้ที่นำกลับมาใช้ใหม่
- เครื่องครัวจากงานไม้แฮนด์เมด
- เฟอร์นิเจอร์
- กระดานโต้คลื่น
- กล่องไม้
- กรอบรูป
- ตัวต่อไม้สำหรับเด็ก
- บ้านนก
- กระถางต้นไม้
- งานศิลปะไม้
- ของเล่นไม้
1. ป้ายไม้
ป้ายไม้เป็นงานไม้แฮนด์เมดที่เริ่มทำได้ง่ายมาก โดยตัวงานมีหลายรูปทรงและขนาด และวิธีใช้งานก็มีหลากหลายทั้งในและนอกบ้าน สามารถทำจากไม้ที่เหลือใช้และนำมาทำให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้เลย
ผู้คนมักตกแต่งบ้านด้วยป้ายไม้ที่มีข้อความที่ตัวเองชอบหรือชื่อครอบครัวของตัวเอง นอกจากนี้ป้ายไม้ยังนิยมใช้ในงานต่าง ๆ เช่น งานแต่งงานและงานเลี้ยง ที่มักใช้เป็นป้ายต้อนรับและป้ายบอกทางภายในงาน
วิธีทำป้ายไม้นั้นมีหลายวิธี เช่น การทาสีด้วยมือ การแกะสลัก หรือจะใช้เครื่อง Cricut ในการทำงานไม้แฮนด์เมดก็ได้

ทำป้ายไม้ที่สามารถใส่ข้อความได้ตามต้องการ หรือป้ายไม้แบบทั่วไปที่ผู้คนสามารถซื้อไปใช้ได้เลย
ระดับทักษะ: มือใหม่
ใคร ๆ ก็สามารถทำป้ายแบบพื้นฐานด้วยแม่พิมพ์และสีได้ โดยป้ายที่ตัวงานมีความซับซ้อนมากขึ้น (เช่น ป้ายที่มีตัวอักษรแกะสลัก) นั้นอาจต้องอาศัยประสบการณ์การทำงานไม้มาบ้าง คุณควรใช้เครื่องมือไฟฟ้าพื้นฐานได้คล่องแคล่วและมีทักษะการใช้มือที่เสถียรสำหรับงานที่ต้องอาศัยความละเอียด
ค่าใช้จ่าย: น้อย
วัสดุพื้นฐานอย่างสีและไม้ที่นำกลับมาใช้ใหม่นั้นมีราคาถูก ซึ่งถ้าคุณใช้เครื่อง Cricut หรือถ้าคุณเลือกใช้ไม้ที่มีราคาแพงอย่างไม้วอลนัทหรือเมเปิ้ลก็จะทำให้ต้นทุนสูงขึ้น โดยอาจมีราคาตั้งแต่ 10-20 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 325-650 บาท) ต่อหนึ่งฟุต
2. พาเลทจากไม้ที่นำกลับมาใช้ใหม่
บริษัทขนส่งและอีคอมเมิร์ซใช้พาเลทไม้ในการขนส่งสินค้าในปริมาณมาก ปัญหาคือพาเลทเหล่านี้เป็นขยะ แต่เป็นวัสดุที่เหมาะสำหรับงานไม้แฮนด์เมดที่หลากหลายซึ่งคุณสามารถนำมาทำเงินได้
งานไม้แฮนด์เมดจากพาเลทที่นำกลับมาใช้ใหม่ที่เหมาะแก่การทำขายมีดังนี้
- กล่องปลูก
- ป้ายตกแต่ง
- โต๊ะกาแฟ
- ม้านั่งไม้
- เก้าอี้หรือม้านั่งเล็ก
- กล่องใส่นามบัตรแบบไม้
- กล่องเรียงจดหมาย/ที่แขวนกุญแจ
- ถาดเสิร์ฟไม้
- แปลงปลูกต้นไม่แบบยกสูง
- แพลตฟอร์มเตียง
- ชั้นวาง
Infinite Abyss มีคอลเลกชันงานไม้แฮนด์เมดในคู่มือ DIY ของตัวเองที่มีชื่อว่า Wood Pallet Wonders และแบรนด์นี้ยังขายสินค้าตกแต่งบ้านที่ทำจากพาเลทไม้ในร้านค้าออนไลน์ของตัวเองด้วย
โปรดจำไว้ว่าหากคุณวางแผนจะขายสินค้าเหล่านี้ทางออนไลน์ คุณจะต้องคิดเรื่องค่าขนส่งและการจัดการ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญทั้งในแง่ของการป้องกันไม่ให้สินค้าเสียหายในระหว่างขนส่งและในแง่ของการลดต้นทุนค่าขนส่ง โดยเฉพาะสำหรับสินค้าที่มีขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมาก เมื่อคำนวณต้นทุนการขนส่งแล้ว งานไม้ที่ขายได้มากที่สุดอาจไม่ใช่ตัวที่ทำกำไรได้มากที่สุดก็ได้ ดังนั้นการศึกษาก่อนที่จะลงมือทำเพื่อให้เห็นภาพรวมของสินค้าที่เป็นไปได้ทั้งหมดจึงเป็นสิ่งสำคัญก่อนที่จะผลิตและขาย

ระดับทักษะ: มือใหม่ถึงระดับกลาง
การแยกส่วนพาเลทออกให้เป็นชิ้น ๆ นั้นเป็นเรื่องง่ายแต่ต้องใช้แรงและความอดทน หากต้องการให้งานออกมาสมบูรณ์แบบ คุณต้องรู้วิธีถอดตะปูออกอย่างปลอดภัยโดยไม่ทำให้ไม้แตก ขัดขอบที่หยาบให้เรียบเนียน และใช้เลื่อยตัดให้ตรง
ค่าใช้จ่าย: ต่ำ
คุณสามารถหาพาเลทไม้ได้ฟรีหรือในราคาที่ไม่แพง โดยวัสดุหลักที่คุณต้องใช้คือบาร์งัด (ราคาประมาณ 490 บาท) ค้อน กระดาษทราย และสกรู
3. เครื่องครัวจากงานไม้แฮนด์เมด
สินค้าเครื่องครัวนั้นเป็นที่ยอมรับว่าเป็นหนึ่งในสินค้าที่ขายได้อย่างต่อเนื่อง คุณอาจเริ่มจากเขียงไม้และที่รองแก้วไม้ หรือเลือกทำสินค้าที่มีเฉพาะเจาะจงมากขึ้น เช่น ภาชนะงานไม้แฮนด์เมดที่มีการใส่รายละเอียดเพิ่มเติม อาจเป็นถาดเสิร์ฟไม้หรือชั้นวางไวน์ก็ได้
Old World Kitchen คือตัวอย่างที่ดีที่แสดงให้เห็นถึงช่างไม้ฝีมือดีที่สร้างธุรกิจจากงานไม้แฮนด์เมดเหล่านี้ โดยเริ่มขายสินค้าบน Etsy และขยายธุรกิจมาสู่ Shopify ในที่สุด

Old World Kitchen ขายสินค้าจากไม้ เช่น ช้อน ไม้พายสำหรับใช้กวน และถ้วยตวง
ระดับทักษะ: กลาง
สินค้าเครื่องครัวต้องอาศัยความใส่ใจในรายละเอียด โดยคุณสามารถทำสินค้าง่าย ๆ อย่างเขียงหรือที่รองแก้ว ในขณะที่เครื่องครัวอย่างช้อนหรือไม้พายสำหรับกวนนั้นต้องอาศัยความสามารถที่มากขึ้น เนื่องจากตัวงานจะต้องอาศัยการขึ้นรูปที่มากขึ้น
ค่าใช้จ่าย: ปานกลาง
สำหรับอาหารแล้วความปลอดภัยคือสิ่งสำคัญที่สุด ซึ่งตรงนี้ทำให้สินค้ามีราคาสูงขึ้นเล็กน้อย โดยเขียงแบบธรรมดาอาจใช้วัสดุราคา 20 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 650 บาท) แต่สำหรับสิ่งที่มีขนาดใหญ่หรือทำงานยากกว่า หรือของที่ต้องใช้อย่างสีย้อมหรือสารเคลือบก็จะทำให้สินค้ามีราคาสูงขึ้นในทันที
4. เฟอร์นิเจอร์
การขายเฟอร์นิเจอร์ออนไลน์นั้นมีโอกาสในการขายที่เปิดกว้าง เนื่องจากผู้บริโภคมีตัวเลือกในการซื้อสินค้าด้วยตนเองน้อยลง ทำให้หันมาซื้อทางออนไลน์เพื่อตอบสนองความต้องการของตนเอง โดยแบรนด์ที่ใ่ใจสิ่งแวดล้อมอย่าง Fyrn ขายเฟอร์นิเจอร์งานไม้แฮนด์เมดอันประณีตบนเว็บไซต์ รวมถึงคอลเลกชั่นสินค้าหลักอย่างเก้าอี้ด้วย
ระดับทักษะ: กลางถึงสูง
ช่างไม้มือใหม่อาจทำงานไม้แฮนด์เมดอย่างเก้าอี้หรือโต๊ะข้างได้ ในขณะที่งานไม้แฮนด์เมดที่ทำยากกว่าอย่างเก้าอี้และโต๊ะรับประทานอาหารนั้นอาจต้องอาศัยประสบการณ์ในระดับที่สูงขึ้น
ค่าใช้จ่าย: ปานกลางถึงสูง
ไม้และอุปกรณ์คุณภาพดีนั้นมีราคาแพง นอกจากนี้การทำเฟอร์นิเจอร์ให้ออกมาอย่างถูกต้องและปลอดภัยนั้นต้องอาศัยเวลาในการทำงานด้วย สำหรับการทำโต๊ะข้างแบบทั่วไป แค่ไม้เพียงอย่างเดียวก็อาจมีราคาตั้งแต่ 50 ถึง 150 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1,640 ถึง 4,900 บาท) รวมถึงค่าสกรู วัสดุตกแต่ง และเครื่องมือพื้นฐานที่คุณอาจยังไม่มี
5. กระดานโต้คลื่น
คุณอาจคิดไม่ถึงว่ากีฬาโต้คลื่นนั้นสามารถเล่นได้ตลอดทั้งปี ทำให้ความต้องการอุปกรณ์โต้คลื่นนั้นมีอยู่ตลอด แต่กระดานโต้คลื่นหลาย ๆ ตัวนั้นทำจากโฟม ไฟเบอร์ พลาสติก และวัสดุอื่น ๆ ที่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
กระดานโต้คลื่นจากงานไม้แฮนด์เมดนั้นเป็นวิธีหนึ่งที่ทำให้การผลิตกระดานโต้คลื่นมีความยั่งยืนมากขึ้น ซึ่งนี่คือสิ่งที่ David Dennis จาก Ventana Surfboards and Supplies ได้ค้นพบ
ระดับทักษะ: สูง
การขึ้นรูปและทำให้กระดานไม้กันน้ำได้นั้นต้องอาศัยเครื่องมือและเทคนิคเฉพาะ หากคุณอยากทำกระดานโต้คลื่น การที่คุณเคยเล่นกระดานโต้คลื่นจะช่วยให้เข้าใจความแตกต่างว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้กระดานมีคุณภาพ และความหลงใหลในกีฬานี้จะช่วยให้คุณเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ และบริหารธุรกิจนี้ได้
ค่าใช้จ่าย: สูง
ไม้คุณภาพดีอย่างไม้ซีดาร์หรือบัลซา รวมถึงค่าใช้จ่ายในการตกแต่งไม้ที่มีหลายขั้นตอนอาจมีราคาแพง แต่ข้อดีคือกระดานโต้คลื่นจากงานไม้แฮนด์เมดสามารถขายได้ในราคาสูง ทำให้คุณอาจทำกำไรได้มาก
6. กล่องไม้
กล่องไม้เป็นหนึ่งในไอเดียที่ทำได้อย่างอิสระซึ่งเหมาะแก่การทำขายเป็นงานไม้แฮนด์เมดและทำเงินได้ดี เหมาะสำหรับช่างฝีมือที่มีทักษะ รวมถึงมือใหม่ก็ทำได้เช่นกัน โดยคุณสามารถใช้ลังไม้และกล่องเก็บของทั่วไป หรือสร้างสรรค์ผลงานด้วยชั้นวางของเพื่อการตกแต่งบ้านและกล่องใส่เครื่องประดับไม้ที่สร้างอย่างวิจิตรบรรจง คุณสามารถทำกล่องดีไซน์สุดสร้างสรรค์และสร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้ โดยอาศัยแค่กาวติดไม้เท่านั้น
“กระปุกออมสินงานไม้แฮนด์เมด” กลายเป็นที่นิยมใน TikTok โดยผู้คนใช้กล่องไม้แบบทั่วไปนี้ในการเก็บออมเงิน โดยตัวกล่องมีรายละเอียดที่สวยงาม เช่น คำแกะสลักหรือหน้าต่างแบบใส หลายคนโพสต์วิดีโอของตัวเองที่ใส่เงินลงในกล่องงานไม้แฮนด์เมดนี้ ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีฝาปิดที่สามารถเลื่อนหรือเปิดได้ เป็นงานไม้แฮนด์เมดแบบพื้นฐานที่ได้รับความนิยมในโซเชียลมีเดีย
ระดับทักษะ: มือใหม่
กล่องแบบทั่วไป (เช่น กล่องเก็บของ) เหมาะสำหรับมือใหม่ คุณแค่ต้องฝึกฝนทักษะการตัดให้ตรงและการต่อแบบพื้นฐาน ในขณะที่กล่องที่มีความซับซ้อนมากขึ้น เช่น กล่องเครื่องประดับ อาจต้องอาศัยทักษะในระดับที่สูงขึ้นเพราะคุณจะต้องทำงานตัดในขนาดที่เล็กกว่าและใช้ไม้ที่มีคุณภาพดีขึ้น
ค่าใช้จ่าย: ต่ำ
ค่าใช้จ่ายจะแตกต่างกันไปตามประเภทของไม้และรายละเอียด เช่น อุปกรณ์ การแกะสลัก หรือการฝัง
7. กรอบรูป
กรอบรูปงานไม้แฮนด์เมดบวกกับงานศิลปะบนผนังสามารถเป็นส่วนผสมที่เหมาะกับการทำขายได้ กรอบรูปนั้นทำได้ง่ายและคุณสามารถทำได้หลายขนาดและหลายสไตล์ โดยอาจนำไม้เก่าหรือไม้เหลือใช้มาทำได้ โดย Barnwood USA นั้นผลิตสินค้าโดยใช้ไม้เก่าจากฟาร์ม
ระดับทักษะ: มือใหม่
การตัดให้ตรงและการต่อแบบพื้นฐานทำให้การทำกรอบรูปนั้นเหมาะกับช่างไม้มือใหม่
ค่าใช้จ่าย: ต่ำ
คุณสามารถใช้ไม้เหลือใช้หรือไม้แบบรีไซเคิลได้เพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านวัสดุ
8. ตัวต่อไม้สำหรับเด็ก
ตัวต่อไม้สำหรับเด็กเป็นสิ่งที่เหมาะแก่การทำขาย เพราะคุณสามารถใช้ไม้เหลือใช้เพื่อทำตัวต่อไม้ในรูปทรงและขนาดต่าง ๆ ได้ รวมถึงทาสีเพื่อเพิ่มสีสัน หรือใส่รายละเอียดโดยใช้เหล็กเผาได้ คุณสามารถสร้างสรรค์คอลเลกชันของตัวเองได้ อย่างเช่น PoppyBabyCo ที่ขายตัวต่อไม้สำหรับเด็ก
ระดับทักษะ: มือใหม่ถึงระดับกลาง
การตัดไม้เหลือใช้ให้เป็นรูปทรงต่าง ๆ และการขัดขอบนั้นไม่ยาก แต่สิ่งที่ยากกว่าคือการแกะสลักหรือการทาสี
ค่าใช้จ่าย: ต่ำ
ไม่ต้องใช้วัสดุมากมาย แค่ต้องทำให้พื้นผิวสินค้านั้นปลอดภัยและไม่เป็นพิษ และคุณควรดูว่าตัวต่อแต่ละชิ้นนั้นไม่เล็กเกินไปจนเป็นอันตรายต่อเด็กเล็ก
9. บ้านนก
บ้านนกเป็นการตกแต่งที่สวยงามทั้งภายในและภายนอก และยังเป็นสินค้าที่ผู้คนมักสะสม ดังนั้นจึงเป็นตลาดเฉพาะกลุ่มที่น่าเข้าไปทำธุรกิจ โดยคุณอาจทำบ้านนกแบบง่าย ๆ โดยใช้ไม้รีไซเคิลหรือเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูงกว่าก็ได้
ผู้ค้าบน Shopify หลายรายขายบ้านนกไม้ทางออนไลน์ โดย Stone Bridge Collections มีหมวดหมู่สินค้าสำหรับบ้านนกไม้โดยเฉพาะ บ้านนกของ Stone Bridge นั้นจะเป็นแบบเจาะจงตามสายพันธุ์นก แถมยังมีบ้านค้างคาวขายด้วย
10. กระถางต้นไม้
ไม้เป็นวัสดุที่เหมาะสำหรับทำกระถางต้นไม้หรือกล่องปลูกพืชทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นกล่องปลูกผักสวนครัวขนาดเล็กไปจนถึงกระถางไม้อวบน้ำขนาดจิ๋วที่วางประดับโต๊ะทำงานก็ทำได้ Woodchuck USA คือหนึ่งในแบรนด์ที่ขายกระถางต้นไม้สำหรับตั้งโต๊ะ และยังมีแนวคิดปลูกต้นไม้หนึ่งต้นต่อสินค้าที่ขายได้หนึ่งชิ้นด้วย
คุณยังสามารถต่อยอดด้วยไอเทมอื่น ๆ สำหรับคนที่รักการจัดสวน เช่น โต๊ะผสมดินหรือม้านั่งจัดสวนแบบที่ Lee Display ทำ
ระดับทักษะ: มือใหม่ถึงระดับกลาง
กล่องไม้ปลูกต้นไม้แบบพื้นฐานทำได้ง่าย หากคุณสามารถตัดไม้ให้ตรงและเจาะรูระบายน้ำได้ก็เริ่มทำขายได้เลย
ค่าใช้จ่าย: ต่ำถึงปานกลาง
โดยรวมถือว่าคุ้มค่า เว้นแต่จะใช้ไม้เกรดพรีเมียมสำหรับงานกลางแจ้งหรือฮาร์ดแวร์เฉพาะทาง
11. งานศิลปะไม้
ขายงานศิลปะออนไลน์ถือเป็นอีกช่องทางที่ช่วยเปลี่ยนงานสร้างสรรค์ให้เป็นรายได้ งานไม้เป็นวัสดุที่น่าทำงานด้วยและสามารถสร้างสรรค์ผลงานได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับความคิดสร้างสรรค์ ทักษะ และความต้องการของลูกค้า

ระดับทักษะ: ง่ายถึงขั้นสูง
ขึ้นอยู่กับไอเดียของคุณ ทั้งงานตัดไม้แบบเรียบง่ายไปจนถึงงานแกะสลักหรืองานติดผนังแบบประณีตก็ใช้ทักษะแตกต่างกัน
ค่าใช้จ่าย: แตกต่างกันไป
ขึ้นอยู่กับวัสดุและเทคนิค หากเลือกใช้ไม้คุณภาพสูงหรือเทคนิคเฉพาะ งานศิลปะไม้แฮนด์เมดอาจกลายเป็นสินค้าระดับพรีเมียมได้เลย
12. ของเล่นไม้
ของเล่นไม้เป็นโปรเจกต์งานไม้แฮนด์เมดที่ทำกำไรดี ด้วยความที่ผู้ปกครองหลายคนกังวลเรื่องวัสดุพลาสติกหรือสารเคมี คุณสามารถวางตำแหน่งสินค้าของเล่นไม้ของคุณให้ดูปลอดภัยและไม่เป็นพิษได้ แบรนด์ Happy Little Folks คือตัวอย่างของผู้ผลิตของเล่นไม้แฮนด์เมดที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
ของเล่นไม้นั้นเหมาะกับทุกวัย ตั้งแต่หมากรุก ชุดตัวต่อ ไปจนถึงเกมไม้ต่าง ๆ อย่าลืมเปิดกว้างกับไอเดียของเล่นชิ้นต่อไปของคุณ
ระดับทักษะ: ระดับกลาง
ของเล่นไม้แบบง่าย เช่น ตัวต่อหรือล้อไม้ทำได้ไม่ยาก แต่ถ้าเป็นของเล่นแบบมีชิ้นส่วนเคลื่อนไหว ต้องใช้ทักษะด้านการขัด การประกอบ และการลงสีมากขึ้น
ค่าใช้จ่าย: ปานกลาง
การทำให้ของเล่นปลอดภัย เช่น การขัดขอบให้เรียบและใช้วัสดุปลอดสารพิษจะเพิ่มทั้งเวลาและต้นทุน
อุปกรณ์พื้นฐานสำหรับงานไม้แฮนด์เมด
งานไม้แต่ละแบบต้องใช้อุปกรณ์แตกต่างกัน แต่เครื่องมือพื้นฐานเหล่านี้ควรมีติดไว้ก่อนเริ่มโปรเจกต์
- เศษไม้หรือไม้สน
- แผ่นไม้
- กาวไม้
- เลื่อยมือ
- เครื่อง CNC
- แผ่นรองตัด
- สว่านไฟฟ้า
- ค้อนหรือฆ้อนยาง
- แว่นตาและถุงมือนิรภัย (ถ้าต้องการ)
วิธีขายงานไม้แฮนด์เมด
การผลิตงานไม้แฮนด์เมดเป็นเพียงครึ่งหนึ่งของกระบวนการ อีกครึ่งหนึ่งคือการหาลูกค้าที่ใช่ ลองดูเคล็ดลับเหล่านี้ที่จะช่วยให้คุณเริ่มขายได้สำเร็จ
1. เลือกสินค้าที่จะขาย
ใช้รายการไอเดียข้างต้นเป็นจุดเริ่มต้น เลือกโปรเจกต์ยอดนิยมมาทดลองทำดู แล้วดูว่าทั้งคุณและลูกค้าพอใจกับผลงานหรือไม่
2. รู้จักกลุ่มเป้าหมาย
หาว่าใครคือกลุ่มที่พร้อมจะซื้อ ลองสำรวจตลาดในพื้นที่ เช่น งานคราฟต์แฟร์หรือร้านเฟอร์นิเจอร์ เพื่อดูว่าสินค้าแบบไหนขายดี คุณอาจพบว่าโต๊ะสไตล์ฟาร์มเฮาส์มีอยู่เยอะแล้ว แต่ยังไม่มีใครทำเฟอร์นิเจอร์แบบมินิมอลหรือแบบ built-in เลย
การนำสินค้าไปขายตามงานแฟร์เล็ก ๆ จะช่วยให้คุณเข้าใจลูกค้ามากกว่าการหาข้อมูลทางทฤษฎี คุณอาจได้เรียนรู้ว่าลูกค้าชอบดีไซน์ของคุณแต่ต้องการไม้คนละชนิด หรือยอมจ่ายแพงขึ้นถ้ามีการปรับแต่งแบบเฉพาะ
3. สร้างเว็บไซต์
หากคุณต้องการขายสินค้าออนไลน์ คุณจำเป็นต้องมีเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ การมีร้านค้าออนไลน์ของตัวเองบนโดเมนของคุณเองจะทำให้คุณสามารถควบคุมธุรกิจได้อย่างเต็มที่ ตั้งแต่การตั้งราคา การทำโปรโมชั่น ไปจนถึงการจัดส่งและการดูแลคำสั่งซื้อ ต่างจากการขายผ่านมาร์เก็ตเพลซซึ่งมักมีข้อจำกัดมากกว่า และต่างจากหน้าร้านจริงที่มีต้นทุนจิปาถะสูงกว่า
คุณสามารถใช้เครื่องมือสร้างเว็บไซต์ของ Shopify เพื่อเปิดร้านค้าออนไลน์ของคุณเองได้ง่าย ๆ โดยจะสามารถเข้าถึงธีมที่ปรับแต่งได้ รองรับการใช้งานบนมือถือ และยังมีทีมซัพพอร์ตคอยช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นด้านการออกแบบหรือการตั้งค่าระบบ
ยิ่งไปกว่านั้น คุณยังสามารถเพิ่มฟีเจอร์ให้เว็บไซต์ได้อีกมากมายผ่านแอปกว่า 8,000 ตัวใน Shopify App Store ทั้งด้านการตลาด การวิเคราะห์ข้อมูล และการดูแลลูกค้า
เมื่อคุณพร้อมเริ่มขาย Shopify ก็มีทุกอย่างที่คุณต้องการเพื่อเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นการรับชำระเงิน การเก็บข้อมูลลูกค้า และการส่งอีเมล all-in-one จบในแพลตฟอร์มเดียว
4. ลงรายการสินค้าและตั้งราคา
ถึงเวลาถ่ายรูปสินค้าของคุณ เขียนคำอธิบายให้น่าสนใจ แล้วนำมาลงขายออนไลน์ให้ลูกค้าได้เห็นและเลือกซื้อ การลงรายการสินค้าบนเว็บไซต์ของคุณเองเป็นขั้นตอนสำคัญ และคุณยังสามารถขยายโอกาสเข้าถึงลูกค้าใหม่ ๆ ได้มากขึ้น หากนำสินค้าไปลงในแพลตฟอร์มของบุคคลที่สามควบคู่กันไปด้วย
Etsy ถือเป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมสำหรับงานแฮนด์เมด แต่ก็ยังมีทางเลือกอื่นที่น่าสนใจให้ลองเช่นกัน คุณสามารถค้นหาคำว่า “Wood Projects” เพื่อดูว่างานไม้แบบไหนกำลังขายดีบน Etsy
ส่วนเรื่องการตั้งราคา ก็ถือเป็นอีกขั้นที่สำคัญ คุณควรตั้งราคาให้ครอบคลุมทั้งต้นทุน วัสดุ เวลา และแรงที่คุณใช้ไป พร้อมกับเผื่อกำไรไว้อย่างเหมาะสม แต่อย่าตั้งสูงเกินไปจนลูกค้าไม่กล้าซื้อ
5. ดึงทราฟฟิกเข้าเว็บไซต์
เมื่อเว็บไซต์ของคุณพร้อมใช้งาน และสินค้าถูกลงเรียบร้อยแล้ว ขั้นต่อไปคือการดึงผู้คนให้เข้ามาที่ร้านออนไลน์ของคุณ การทำให้มีคนเข้ามาชมสามารถทำได้ทั้งแบบออร์แกนิก (ไม่เสียเงิน) และแบบเสียค่าโฆษณา โดยควรใช้ควบคู่กันไปอย่างมีแผน
6. ตรวจสอบข้อมูลและพัฒนาต่อ
เมื่อเวลาผ่านไป คุณจะมีข้อมูลมากพอที่จะเข้าใจธุรกิจของคุณได้ลึกขึ้น แดชบอร์ดของ Shopify จะแสดงข้อมูลสำคัญต่าง ๆ เช่น ยอดขาย คำสั่งซื้อ และพฤติกรรมผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณเห็นทั้งจุดแข็ง จุดอ่อน และแม้กระทั่งโอกาสใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยมองเห็นมาก่อน
เริ่มธุรกิจงานไม้แฮนด์เมดของคุณวันนี้
ถ้าคุณอยากเริ่มขายโปรเจกต์งานไม้ อย่าลืมเตรียมตัวให้พร้อมด้วยเครื่องมือสร้างร้านออนไลน์ที่เชื่อถือได้อย่าง Shopify ที่มีทุกอย่างที่คุณต้องใช้ในการดูแลธุรกิจ ตั้งแต่การเริ่มต้นไปจนถึงการขยายต่อ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการขายงานไม้แฮนด์เมด
โปรเจกต์งานไม้แฮนด์เมดแบบไหนขายดีที่สุด?
ต่อไปนี้คือตัวอย่างไอเดียงานไม้แฮนด์เมดที่ขายดี
- ป้ายไม้
- พาเลทไม้
- ของใช้ในครัว
- เขียงไม้
- เฟอร์นิเจอร์
- กระดานโต้คลื่น
- กล่องไม้
- เชิงเทียนไม้
- กรอบรูป
- บล็อกไม้สำหรับเด็ก
- บ้านนก
- กระถางต้นไม้
- งานศิลปะ
- ชั้นวางไวน์
- แปลงปลูกผักแบบยกสูง
ธุรกิจงานไม้แฮนด์เมดทำกำไรได้จริงหรือไม่?
ได้แน่นอน ธุรกิจงานไม้แฮนด์เมดสามารถทำกำไรได้จริง หากคุณตั้งราคาสินค้าอย่างมีกลยุทธ์ และบริหารต้นทุนให้ต่ำ คุณก็สามารถมีอัตรากำไรที่ดีจากโปรเจกต์งานไม้ของคุณได้
ตัวอย่างเช่น การขายเขียงไม้หรือชั้นวางไวน์จะมีต้นทุนการผลิตน้อยกว่าการทำโต๊ะกาแฟไม้ที่ขัดเงาอย่างสมบูรณ์แบบ กำไรที่คุณทำได้จากโปรเจกต์งานไม้แฮนด์เมดขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ต้นทุนวัสดุ ค่าใช้จ่ายด้านการตลาด ค่าขนส่ง และค่าใช้จ่ายทางธุรกิจอื่น ๆ
สินค้างานไม้แฮนด์เมดแบบไหนที่ขายดีที่สุด?
สินค้างานไม้แฮนด์เมดที่มักขายดี ได้แก่
- ป้ายไม้
- พาเลทไม้
- ม้านั่งไม้
- ของใช้ในครัว
- เฟอร์นิเจอร์
- กระดานโต้คลื่น
- กล่องไม้
- เชิงเทียนไม้
- กรอบรูป
- บล็อกไม้สำหรับเด็ก
- บ้านนก
- กระถางต้นไม้
- งานศิลปะ
- โต๊ะกาแฟ
โปรเจกต์งานไม้มักขายกันในราคาเท่าไหร่?
ราคาของโปรเจกต์งานไม้มีความหลากหลายมาก คุณสามารถขายโปรเจกต์ง่าย ๆ อย่างที่รองแก้วในราคาหลักสิบถึงหลักร้อย ในขณะที่โปรเจกต์ซับซ้อนที่ทำโดยช่างฝีมือมากประสบการณ์อาจมีราคาสูงถึงหลักหมื่นหรือมากกว่านั้น
แนะนำให้เริ่มจากโปรเจกต์ง่าย ๆ ก่อน แล้วค่อย ๆ ขยับไปสู่สินค้าที่ซับซ้อนขึ้นเมื่อทักษะของคุณพัฒนา และร้านเริ่มมียอดขายมากขึ้น
วิธีตั้งราคางานไม้แฮนด์เมดอย่างมีประสิทธิภาพทำอย่างไร?
ตัวอย่างสูตรการตั้งราคาที่ใช้งานกันทั่วไปคือให้นำต้นทุนวัสดุทั้งหมด (เช่น ไม้ ฮาร์ดแวร์ น้ำยาเคลือบ ฯลฯ) มาคูณด้วย 3 หรือ 4 เพื่อให้ครอบคลุมเวลาทำงานและค่าใช้จ่ายแฝงอื่น ๆ จากนั้นไปดูตลาดเปรียบเทียบว่าสินค้าคล้ายกันขายกันในราคาเท่าไหร่ แล้วจึงปรับราคาให้เหมาะสม เพื่อให้ยังแข่งขันในตลาดได้