อุตสาหกรรมการค้าส่งในสหรัฐอเมริกามีมูลค่าประมาณ 23.5 ล้านล้านบาทต่อเดือน เป็นตลาดขนาดมหึมาที่ผู้ขายไม่ควรมองข้าม แม้หลายธุรกิจเริ่มเข้าสู่โลกของอีคอมเมิร์ซแบบขายส่งกันมากขึ้น แต่การหาและร่วมมือกับซัพพลายเออร์ขายส่งที่ไว้ใจได้ รวมถึงการเลือกแหล่งสินค้าที่เหมาะสม ก็อาจรู้สึกยุ่งยากและน่าปวดหัว
บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจว่าการซื้อขายส่งทำงานอย่างไร สำรวจทางเลือกในการจัดหาสินค้า และเรียนรู้วิธีค้นหาซัพพลายเออร์ขายส่งหรือซัพพลายเออร์ดรอปชิปที่ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจคุณ
ไม่ว่าคุณจะเพิ่งเริ่มต้นหรือกำลังมองหาวิธีขยายไลน์สินค้า คุณจะได้ค้นพบกลยุทธ์ที่ใช้ได้จริงในการสร้างความร่วมมือกับซัพพลายเออร์ที่เชื่อถือได้
ซัพพลายเออร์ขายส่งคือใคร
ซัพพลายเออร์ขายส่งคือผู้ที่ซื้อสินค้ามาจากผู้ผลิตโดยตรง แล้วนำมาขายต่อให้กับร้านค้าปลีก โมเดลการขายส่งได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมากในยุคที่การผลิตจำนวนมากเริ่มเฟื่องฟูในศตวรรษที่ 19
ซัพพลายเออร์ขายส่งทำหน้าที่เป็นตัวกลางในห่วงโซ่อุปทาน โดยจะซื้อสินค้าจากผู้ผลิตหรือผู้จัดจำหน่ายในปริมาณมากในราคาที่ถูกลง จากนั้นจึงส่งต่อราคาพิเศษนี้ให้กับร้านค้าปลีก ซึ่งโดยทั่วไปแล้วร้านค้าปลีกจะซื้อสินค้าในราคาประมาณ 60% ถึง 70% ของราคาขายปลีกให้ผู้บริโภค
ซัพพลายเออร์ขายส่งส่วนใหญ่มักมีใบอนุญาตสำหรับจัดจำหน่ายสินค้า และมักจะมีราคาพิเศษที่สงวนไว้สำหรับพาร์ตเนอร์ที่เป็นร้านค้าปลีกเท่านั้น
วิธีหาซัพพลายเออร์ขายส่งที่เชื่อถือได้
การหาซัพพลายเออร์ขายส่งที่เหมาะกับธุรกิจไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ในวันเดียว ต้องอาศัยทั้งเวลาและการค้นคว้าอย่างจริงจัง ต่อไปนี้คือสิ่งสำคัญที่ควรพิจารณา
คุณภาพของผลิตภัณฑ์
ก่อนจะสั่งล็อตใหญ่ ควรศึกษาวิจัยตลาดให้ดี บางแพลตฟอร์มมีของลอกเลียนแบบหรือสินค้าคุณภาพต่ำมากกว่าที่คิด ควรขอตัวอย่างมาลองก่อนเพื่อเช็กคุณภาพด้วยตัวเอง จะได้ไม่ต้องติดค้างกับของที่ขายไม่ได้
ราคาและการเจรจา
ติดตามราคาขายส่งของสินค้าอยู่เสมอ และอย่ากลัวที่จะเจรจา ซัพพลายเออร์ส่วนมากยินดีลดราคาเมื่อคุณสั่งในปริมาณมาก โดยส่วนลดประมาณ 10% ถือว่าเป็นมาตรฐานและแสดงว่าคุณได้ราคาที่แฟร์
บริการลูกค้า
เลือกซัพพลายเออร์ที่มีประวัติในการแก้ปัญหาอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะถ้าคุณทำดรอปชิป เพราะการจัดการปัญหา เช่น สินค้าเสียหายหรือการจัดส่งล่าช้า เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ลองอ่านรีวิวหรือสอบถามว่า เขารับมือกับสถานการณ์เหล่านี้อย่างไร
ความเร็วในการจัดส่ง
ลูกค้าส่วนใหญ่คาดหวังว่าการส่งของเร็วคือไม่เกิน 3 วันทำการ ดังนั้นควรถามซัพพลายเออร์ว่าใช้เวลากี่วันในการแพ็กและส่งสินค้า ใช้ขนส่งเจ้าไหน เวลาจัดส่งโดยเฉลี่ยเป็นอย่างไร และมีตัวเลือกแบบด่วนหรือไม่
ซัพพลายเออร์ขายส่งชั้นนำ 7 ราย
ถ้าอยากขายสินค้าหลากหลายหรือแข่งกันด้วยราคา นี่คือมาร์เก็ตเพลสขายส่งที่น่าสนใจซึ่งคุณไม่ควรพลาด
1. Shopify Collective

ขายผลิตภัณฑ์จากร้านอื่นๆ บนร้านออนไลน์ของคุณด้วย Shopify Collective
Shopify Collective ช่วยให้คุณสามารถซื้อและขายสินค้าขายส่งได้จากร้านค้าออนไลน์ หน้าร้านจริง หรือแม้แต่บัญชีโซเชียลมีเดียของคุณเอง
แพลตฟอร์มนี้เหมาะสำหรับคุณหาก
- มีพื้นที่เก็บของไม่มากแต่ต้องการขายสินค้ามากขึ้น
- อยากรักษาสภาพคล่องของเงินสด เพราะคุณจะจ่ายเงินให้ซัพพลายเออร์ก็ต่อเมื่อขายสินค้าได้แล้ว
- ฝันอยากสร้างห้างออนไลน์ที่รวมหลายแบรนด์ไว้ในที่เดียว
ลองดูแบรนด์แฟชั่นหรู Larroude เป็นตัวอย่าง พวกเขาใช้ Shopify Collective สำหรับ “Colléct” ซึ่งเป็นมาร์เก็ตเพลสแบบคัดสรรเฉพาะแบรนด์ดาวรุ่ง “การขยายตัวอย่างไร้รอยต่อไปยังแบรนด์หรูอื่น ๆ ผ่าน Collective ทำให้รายได้เพิ่มขึ้น 21% แบบเดือนต่อเดือน แสดงให้เห็นถึงพลังของการร่วมมือระหว่างแบรนด์ และโอกาสในการเข้าถึงหมวดหมู่สินค้าใหม่ ๆ” Bianca Inocencio ผู้เชี่ยวชาญด้านโซลูชันธุรกิจจาก Larroude กล่าว
2. Alibaba และ AliExpress

ค้นหาซัพพลายเออร์ขายส่งจากจีนได้ที่ Alibaba และ AliExpress
Alibaba และเว็บไซต์ในเครืออย่าง AliExpress เป็นจุดหมายยอดนิยมของร้านค้าทั่วโลกที่ต้องการหาแหล่งสินค้าจากซัพพลายเออร์ขายส่งในจีน
ถ้าคุณเพิ่งเริ่มต้น ลองเริ่มจาก AliExpress ก่อน เพราะสามารถสั่งซื้อสินค้าแบบชิ้นเดียวได้ โดยยังไม่ต้องกระโดดเข้าสู่โลกของการสั่งล็อตใหญ่แบบใน Alibaba แพลตฟอร์มเหล่านี้เหมาะสำหรับ
- หาสินค้าราคาย่อมเยาจากจีน
- สำรวจสินค้ามากมายในหลายช่วงราคา
- สร้างสินค้าแบรนด์ของตัวเองแบบไพรเวทเลเบิล
การจัดส่งจากจีนในตอนนี้ก็สะดวกขึ้นมาก ต้องขอบคุณบริการ ePacket ที่เริ่มต้นโดยไปรษณีย์สหรัฐในปี 2011 ซึ่งเปิดให้ส่งแบบ First Class พร้อมระบบติดตามพัสดุ นั่นหมายความว่าการสั่งสินค้าจากซัพพลายเออร์จีนในวันนี้ทั้งเร็วและถูกกว่าที่เคย
3. DHgate

ค้นหาผู้ค้าส่งที่ขายสินค้าลอกเลียนแบบได้ที่ DHGate
DHgate เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มขายส่งจากจีนที่มีราคาน่าสนใจ แต่อย่าลืมว่าที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องสินค้าก็อป ถ้าคุณต้องการสินค้าของแท้ ควรตรวจสอบให้แน่ชัดว่าใครเป็นคนขาย
สิ่งที่ทำให้ DHgate น่าสนใจ
- ราคาดีในหลากหลายหมวดสินค้า
- มีตัวเลือกเยอะสำหรับร้านค้าทุกประเภท
- ระบบเรตติ้งที่ใช้งานง่าย ช่วยให้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของซัพพลายเออร์ได้อย่างรวดเร็ว
4. EK Wholesale

ผู้จัดหา EK ที่ตั้งอยู่ในสกอตแลนด์เชี่ยวชาญด้านเสื้อผ้าค้าส่ง
EK Wholesale ดำเนินธุรกิจมานานกว่า 30 ปี จนกลายเป็นซัพพลายเออร์ขายส่งที่หลายคนไว้วางใจในยุโรป โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สกอตแลนด์ เน้นขายส่งเสื้อผ้าคุณภาพดี และจัดส่งฟรีทั่วสหราชอาณาจักรแผ่นดินใหญ่เมื่อมียอดสั่งซื้อมากกว่า 11,000 บาท
EK Wholesale อาจเหมาะสำหรับคุณหาก
- เปิดร้านขายเสื้อผ้า
- อยากเริ่มต้นสร้างแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเอง
- เน้นขายสินค้าให้ลูกค้าในยุโรปเป็นหลัก
5. Faire

จัดหาสินค้าสำหรับร้านค้า Shopify ของคุณด้วยแอป Faire
Faire เป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมในหมู่ผู้ค้าทั่วอเมริกาเหนือ ที่นี่คุณจะเจอซัพพลายเออร์จากทั่วทั้งทวีป ขายสินค้าหลากหลายตั้งแต่เครื่องสำอาง อุปกรณ์สำนักงาน ไปจนถึงของใช้สัตว์เลี้ยง
Faire ยังเหมาะกับสายดรอปชิปอีกด้วย เพราะซัพพลายเออร์หลายเจ้ามีบริการจัดส่งฟรี ช่วยให้คุณประหยัดต้นทุน โดยเฉพาะช่วงเริ่มต้นธุรกิจ
Faire มีสองวิธีในการใช้แพลตฟอร์มของพวกเขากับ Shopify:
- ซื้อสินค้าค้าส่งผ่านแอป Faire: Buy Wholesale
- ขายผลิตภัณฑ์ให้กับผู้ค้าปลีกทั่วโลกด้วยแอป Faire: Sell Wholesale
6. Wholesale Central

เรียกดูหมวดหมู่ยอดนิยมบนเว็บไซต์ไดเร็กทอรีซัพพลายเออร์นี้
Wholesale Central เป็นแพลตฟอร์มที่เน้นความเรียบง่าย เว็บไซต์ไม่มีลูกเล่นเยอะ แต่เชื่อมคุณเข้ากับซัพพลายเออร์มากกว่า 1,400 ราย และสินค้ามากกว่า 700,000 รายการ โดยไม่เก็บค่าสมาชิกใด ๆ
จุดเด่นของ Wholesale Central
- ราคาขายส่งจริง คุณต้องมีรหัสธุรกิจและเลขภาษีเพื่อเข้าใช้งาน
- เครื่องมือค้นหาที่ช่วยให้คุณเจอผู้ให้บริการดรอปชิปในพื้นที่ได้ง่าย
- ไม่ต้องลงทะเบียนให้ยุ่งยาก เริ่มติดต่อซัพพลายเออร์ได้ทันที
7. IndiaMart

ค้นหาผู้จัดหาสินค้าค้าส่งที่ขายผลิตภัณฑ์เภสัชกรรมที่ไม่ต้องสั่งจ่ายได้ที่ IndiaMart
IndiaMart โดดเด่นในอุตสาหกรรมเฉพาะทาง เหมาะอย่างยิ่งหากคุณขายสินค้าในหมวดต่อไปนี้
- อุปกรณ์ทางการแพทย์
- สารเคมี
- เครื่องจักรและอุปกรณ์อุตสาหกรรม
- อะไหล่ยานยนต์
- ยาที่ไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์
นี่คือหนึ่งในไม่กี่แพลตฟอร์มขายส่งที่รองรับสินค้าประเภทเฉพาะทางแบบนี้ จึงเหมาะมากสำหรับผู้ขายที่เน้นตลาดเฉพาะกลุ่ม
ปัจจัยอื่นๆ ที่ควรพิจารณาในการหาซัพพลายเออร์ขายส่ง ที่เหมาะกับคุณ
การหาซัพพลายเออร์ที่ใช่ต้องใช้เวลาและการค้นหาที่ลึกพอสมควร และนี่คือข้อผิดพลาดทั่วไปที่ควรระวัง
ทำเลที่ตั้งมีผลโดยตรง
ลูกค้าทุกวันนี้คาดหวังการจัดส่งที่รวดเร็ว ดังนั้นคุณควรคิดถึงตำแหน่งของกลุ่มลูกค้าของคุณด้วย ถ้าคุณขายให้ลูกค้าในยุโรป การจัดส่งจากซัพพลายเออร์ในเยอรมนีจะทั้งเร็วและประหยัดกว่าการส่งจากจีน นอกจากนี้ หากคุณนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ อย่าลืมคำนึงถึงเรื่องภาษีศุลกากรและข้อกำหนดต่าง ๆ ในการนำเข้า เพราะสิ่งเหล่านี้อาจส่งผลอย่างมากต่อทั้งต้นทุนและระยะเวลาการจัดส่งของคุณ
วางงบให้รอบคอบ
หาจุดที่เหมาะสมในการใช้จ่ายของคุณ
- สั่งสินค้าในปริมาณที่พอจะได้ราคาขายส่ง
- อย่าทุ่มทุนกับสินค้าที่คุณยังไม่เคยลองขาย
- ตั้งขีดจำกัดงบประมาณให้ชัดเจน
- คำนวณต้นทุนให้ครบก่อนสั่งซื้อ
ระวังค่าใช้จ่ายแฝง
ซัพพลายเออร์ขายส่งส่วนใหญ่จะมีค่าสมาชิก ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่คุณควรเข้าใจค่าใช้จ่ายทั้งหมดตั้งแต่แรก โดยควรถามข้อมูลเกี่ยวกับ
- ค่าสมาชิกรายเดือนหรือรายปี
- ปริมาณขั้นต่ำในการสั่งซื้อ
- ค่าจัดส่ง
- เงื่อนไขการชำระเงิน
ตรวจสอบความน่าเชื่อถือ
ระวังซัพพลายเออร์ขายส่งที่เปิดขายให้บุคคลทั่วไป เพราะซัพพลายเออร์ขายส่งที่แท้จริงมักต้องการดูรหัสธุรกิจของคุณก่อน นี่คือวิธีที่พวกเขาใช้ปกป้องราคาขายส่งไม่ให้รั่วไหลสู่ตลาดทั่วไป
ซัพพลายเออร์ขายส่งช่วยธุรกิจของคุณได้อย่างไร
ซัพพลายเออร์ขายส่งช่วยให้คุณโฟกัสกับสิ่งที่สำคัญ คือการเลือกสินค้าที่ดี (โดยไม่ต้องพัฒนาสินค้าเอง) การทำการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ และการให้บริการลูกค้าอย่างยอดเยี่ยม การทำงานกับซัพพลายเออร์ขายส่งมอบข้อได้เปรียบหลายประการให้กับคุณ
- ซื้อสินค้าตามความต้องการโดยไม่ต้องเสียค่าเก็บสต็อกแพง
- เติมสินค้ายอดนิยมได้อย่างรวดเร็วด้วยความสัมพันธ์ที่ดีกับซัพพลายเออร์
- ได้ราคาที่ดีกว่าซึ่งช่วยให้มีกำไรที่ดี
- ข้ามขั้นตอนการพัฒนาสินค้า ประหยัดทั้งเงินและเวลา
ทำความเข้าใจซัพพลายเออร์ดรอปชิป
ดรอปชิปเป็นวิธีการจัดส่งสินค้าที่แตกต่างจากการขายส่งแบบดั้งเดิม แทนที่จะเก็บสต็อกสินค้า คุณจะสั่งซื้อสินค้าจากซัพพลายเออร์รายที่สามซึ่งจะจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าของคุณโดยตรง นึกภาพว่ามันคือการรวมข้อดีของการซื้อขายส่งกับการจัดส่งโดยบุคคลที่สาม
โมเดลดรอปชิปช่วยให้คุณหลีกเลี่ยง
- การจัดการสต็อกสินค้า
- การแพ็กสินค้า
- การจัดส่งสินค้า
ถ้าคุณเพิ่งเริ่มต้น ลองพิจารณาใช้แอปดรอปชิปที่เชื่อมต่อกับร้านค้าออนไลน์ของคุณ แต่ถ้าคุณมีประสบการณ์มากขึ้นหรือมีตลาดเฉพาะทาง อาจเลือกทำงานกับซัพพลายเออร์ขายส่งโดยตรงเพื่อได้ราคาที่ดีกว่า
เรียนรู้เพิ่มเติม: สินค้าดรอปชิป 150+ ชนิดที่ขายแล้วมีกำไร
วิธีที่ไม่ธรรมดาในการค้นหาซัพพลายเออร์ขายส่ง
แม้ว่าการใช้มาร์เก็ตเพลสขายส่งจะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด แต่การคิดนอกกรอบอาจช่วยให้คุณเจอดีลที่ดีกว่า นี่คือวิธีสร้างสรรค์ที่น่าสนใจ
- ไปงานแสดงสินค้าหรือเทรดโชว์ในอุตสาหกรรมเพื่อพบซัพพลายเออร์ตัวจริง
- เข้าร่วมกลุ่มโซเชียลมีเดียที่เกี่ยวข้องกับตลาดของคุณ เพื่อเชื่อมต่อกับผู้ค้าคนอื่น ๆ
- เป็นสมาชิกองค์กรการค้าหรือสมาคมในหมวดสินค้าของคุณ
การพบหน้ากับซัพพลายเออร์แบบตัวต่อตัวมีคุณค่าอย่างมาก เพราะความสัมพันธ์ส่วนตัวเหล่านี้มักนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่แข็งแรงขึ้น ได้ราคาที่ดีกว่า และเงื่อนไขที่ยืดหยุ่นกว่าสำหรับการสั่งซื้อจำนวนมาก
คำถามที่ควรถามซัพพลายเออร์ที่คุณสนใจ
ก่อนติดต่อซัพพลายเออร์ เตรียมเอกสารใบอนุญาตธุรกิจและเอกสารภาษีให้พร้อม เพราะหลายเจ้าอาจไม่ยอมพูดคุยเรื่องราคาถ้าไม่มีเอกสารเหล่านี้ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะซัพพลายเออร์ขายส่งที่ได้รับการรับรองจะขายเฉพาะให้กับธุรกิจเท่านั้น ไม่ใช่ผู้บริโภค
เมื่อคุณติดต่อซัพพลายเออร์แล้ว นี่คือคำถามสำคัญที่ควรถาม
จำนวนสั่งซื้อขั้นต่ำและราคา
- คุณมียอดสั่งซื้อขั้นต่ำ (MOQ) เท่าไหร่
ถ้าคุณต้องการสั่งจิวเวลรี่ 100 ชิ้น แต่ซัพพลายเออร์ให้ส่วนลดเฉพาะเมื่อสั่ง 500 ชิ้นขึ้นไป นั่นอาจเป็นปัญหา - ราคาต่อหน่วยเท่าไหร่
- คุณมีส่วนลดสำหรับการสั่งซื้อจำนวนมากไหม
อย่าสั่งเกินความจำเป็นเพียงเพื่อให้ได้ราคาที่ถูกกว่า สินค้าที่ขายไม่ออกแม้จะดูเหมือนดีลคุ้มค่า อาจกลายเป็นความผิดพลาดที่มีต้นทุนสูงได้อย่างรวดเร็ว
นโยบายและเวลา
- นโยบายการคืนสินค้าเป็นอย่างไร ใครเป็นผู้รับผิดชอบค่าจัดส่งคืน
- โดยทั่วไปใช้เวลานานเท่าไหร่ในการจัดส่งสินค้า
- ถ้าสินค้าหมดสต็อก คุณจัดการอย่างไร
การมีเวลาจัดส่งที่ชัดเจนช่วยให้คุณตั้งความคาดหวังกับลูกค้าได้ดี ความล่าช้าหรือการเติมสต็อกที่ไม่แน่นอนอาจทำให้ลูกค้าไม่พอใจได้
อย่าลืมว่าเงื่อนไขส่วนใหญ่สามารถเจรจาต่อรองได้ โดยเฉพาะเมื่อต่อยอดความสัมพันธ์กับซัพพลายเออร์แล้ว
ตรวจสอบสุดท้ายก่อนร่วมงานกับซัพพลายเออร์
ก่อนเซ็นสัญญาใด ๆ ควรทำตามขั้นตอนสำคัญเหล่านี้
ขอข้อมูลอ้างอิง ขอข้อมูลติดต่อของลูกค้าปัจจุบัน ถ้าซัพพลายเออร์ลังเลที่จะให้ข้อมูล อาจเป็นสัญญาณเตือน
ตรวจสอบประกันภัย ตรวจสอบว่าซัพพลายเออร์มีประกันความรับผิดชอบต่อสินค้า เพื่อปกป้องคุณหากลูกค้าได้รับบาดเจ็บจากสินค้าที่มีปัญหา ซัพพลายเออร์ที่ไม่มีประกันภัยทำให้ธุรกิจของคุณเสี่ยง
ทบทวนตัวเลข เริ่มต้นด้วยยอดสั่งซื้อเล็ก ๆ กับซัพพลายเออร์ใหม่ แม้จะมีส่วนลดมากแค่ไหนก็ตาม คำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมดรวมค่าจัดส่งหรือค่าดำเนินการไว้ล่วงหน้า อย่าลืมว่าสินค้าค้างสต็อกจะผูกมัดเงินทุนที่คุณอาจใช้ในส่วนอื่นของธุรกิจ ดังนั้นอย่าปล่อยให้ดีลที่น่าตื่นเต้นทำให้คุณใช้จ่ายเกินงบประมาณ
วิธีสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับซัพพลายเออร์
ความสัมพันธ์ที่ดีกับซัพพลายเออร์สามารถเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จหรือความล้มเหลวของธุรกิจคุณ นี่คือวิธีสร้างพันธมิตรที่ยั่งยืนและช่วยให้ทั้งสองฝ่ายเติบโตไปด้วยกัน
สื่อสารอย่างชัดเจน
ซัพพลายเออร์ขายส่งต้องทำงานกับหลายแบรนด์พร้อมกัน จึงควรให้เกียรติเวลาของเขาด้วยการสื่อสารที่ตรงประเด็น แทนที่จะถามแบบกว้าง ๆ เช่น “ผมกำลังคิดจะเริ่มธุรกิจดรอปชิป” ให้ถามคำถามที่ชัดเจน เช่น “ราคาที่ดีที่สุดสำหรับการสั่ง 250 หน่วยต่อเดือนคือเท่าไหร่”
คิดไกลเกินความต้องการของตัวเอง
อย่าติดต่อเฉพาะเมื่อคุณต้องการอะไรเท่านั้น พยายามหาวิธีทำให้ความสัมพันธ์นี้เป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย เช่น ขอแบบฟอร์มการสั่งซื้อที่ซัพพลายเออร์ชอบใช้ หรือขออีเมลที่ถูกต้องของฝ่ายบัญชี สิ่งเล็ก ๆ เหล่านี้ที่ช่วยให้งานของพวกเขาง่ายขึ้น จะส่งผลดีต่อการทำงานร่วมกัน
ชำระเงินตรงเวลา
ซัพพลายเออร์ส่วนใหญ่มักให้เวลาชำระเงินหลังส่งสินค้าได้หนึ่งเดือน ซึ่งช่วยให้คุณขายสินค้าได้ก่อน การรักษากำหนดชำระเงินนี้สำคัญมาก เพราะซัพพลายเออร์ก็ต้องทำธุรกิจด้วย การจ่ายเงินล่าช้าอาจทำให้เงื่อนไขเข้มงวดขึ้น หรืออาจทำให้คุณสูญเสียซัพพลายเออร์รายนั้นไป
ให้และรับข้อเสนอแนะ
ความสัมพันธ์การทำงานที่ลงตัวตั้งแต่ครั้งแรกเป็นเรื่องยาก ทั้งคุณและซัพพลายเออร์ขายส่งต่างก็เรียนรู้กันและกันอยู่เสมอ เปิดรับคำติชมเพราะช่วยแก้ไขปัญหาได้รวดเร็วและสร้างความสัมพันธ์ที่ดี
แสดงความขอบคุณ
เมื่อคุณเจอซัพพลายเออร์ขายส่งที่น่าเชื่อถือ อย่าลืมบอกให้เขารู้ ความสัมพันธ์ที่แข็งแรงช่วยให้มีสต็อกสินค้าคงที่และลดปัญหาของหมด ซัพพลายเออร์ที่รู้สึกว่าถูกให้ความสำคัญจะให้ความสำคัญกับคำสั่งซื้อของคุณก่อน และมักจะแนะนำสินค้ารุ่นใหม่ ๆ ให้คุณก่อน เพื่อช่วยให้สินค้าของคุณสดใหม่อยู่เสมอ
สินค้าค้าส่งที่ได้รับความนิยม
เมื่อต้องเลือกซัพพลายเออร์ ให้พิจารณาความต้องการเฉพาะของสินค้าคุณ แม้ว่าซัพพลายเออร์หลายรายจะมีสินค้าทั่วไป แต่บางรายโดดเด่นในสินค้าหมวดเฉพาะ
นี่คือสิ่งที่ควรมองหาใน หมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยม
เครื่องประดับขายส่ง
ก่อนที่จะสั่งซื้อจำนวนมากสำหรับธุรกิจเครื่องประดับของคุณ ให้ตรวจสอบรายละเอียดสำคัญเหล่านี้ หากซัพพลายเออร์ไม่ให้ข้อมูลเหล่านี้ ควรหาซัพพลายเออร์รายอื่นแทน
- รีวิวสินค้าและคะแนนคุณภาพ สินค้าตรงตามความคาดหวังของลูกค้าหรือไม่
- รายชื่อลูกค้าปัจจุบัน ร้านค้าชื่อดังช่วยสร้างความมั่นใจในซัพพลายเออร์
- ประกันการจัดส่งและนโยบายการรับผิดชอบความเสียหาย เครื่องประดับเป็นสินค้าขนาดเล็กและเปราะบาง จึงควรชัดเจนว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบหากสินค้าชำรุดก่อนสั่งซื้อ
เสื้อผ้าค้าส่ง
แฟชั่นเป็นสินค้ายอดนิยมในกลุ่มดรอปชิปและมีการเปลี่ยนแปลงตามเทรนด์อยู่ตลอด เมื่อตรวจสอบซัพพลายเออร์ขายส่งแฟชั่น ควรให้ความสำคัญกับ
- การเน้นตลาดเฉพาะกลุ่มอย่างชัดเจน เช่น เสื้อผ้าสตรี เสื้อผ้าเด็ก หรือเสื้อผ้าผู้ชาย
- ตัวเลือกในการปรับแต่งแบรนด์ เช่น เสื้อยืดหรือฮู้ดดี้สั่งทำพิเศษ
- การแพ็กเกจสินค้าที่มืออาชีพ เพราะเป็นช่องทางเดียวที่ส่งตรงถึงลูกค้าของคุณทุกคน
เรียนรู้เพิ่มเติม: การพิมพ์ตามสั่งคืออะไรและจะเริ่มต้นธุรกิจได้อย่างไร
ชาและกาแฟขายส่ง
การขายกาแฟออนไลน์เป็นทางเลือกที่ง่ายในการเข้าสู่ตลาดอีคอมเมิร์ซ แต่ก็มีข้อควรพิจารณาเฉพาะตัว:
- คุณภาพบรรจุภัณฑ์สำคัญมาก เพราะลูกค้าไม่เห็นโลโก้ตอนดื่ม
- การสนับสนุนด้านการสร้างเอกลักษณ์แบรนด์ ซัพพลายเออร์ที่ดีในอุตสาหกรรมอาหารควรช่วยคุณสร้างแบรนด์ของตัวเอง
ค้นหาผู้จัดหาสินค้าค้าส่งที่สมบูรณ์แบบของคุณวันนี้
การเริ่มต้นร้านค้าออนไลน์อาจดูน่ากังวลถ้าคุณยังไม่มีสินค้ามาขาย แต่การหาซัพพลายเออร์ขายส่งที่น่าเชื่อถือทำได้ง่ายกว่าที่เคย ค้นหาซัพพลายเออร์ที่ได้รับรีวิวดีและเข้าใจตลาดของคุณ สั่งสินค้าตัวอย่าง เจรจาราคาก่อน แล้วเริ่มต้นได้เลย Shopify พร้อมสนับสนุนคุณในทุกขั้นตอน
ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ขายมือใหม่หรือผู้ค้ารายใหญ่ระดับโลก Shopify ก็เหมาะกับทุกคน ดูแผนบริการและราคาได้เลย
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับซัพพลายเออร์ขายส่ง
จะหาซัพพลายเออร์ขายส่งที่น่าเชื่อถือได้ยังไง
- เข้าร่วมงานแสดงสินค้า
- ใช้ไดเร็กทอรีขายส่ง เช่น Alibaba หรือ ThomasNet
- ติดต่อผู้ผลิตโดยตรง
- ค้นหาในมาร์เก็ตเพลสออนไลน์
- เข้าร่วมฟอรัมขายส่ง
- ขอคำแนะนำจากคนรู้จัก
จะซื้อสินค้าจำนวนมากเพื่อขายต่อได้ที่ไหน
เว็บไซต์ขายส่งยอดนิยม ได้แก่ AliExpress, DHgate, Alibaba และ Amazon การเลือกแพลตฟอร์มขึ้นอยู่กับประเภทสินค้าที่คุณขาย
จะซื้อสินค้าค้าสำหรับธุรกิจขนาดเล็กได้ยังไง
ซัพพลายเออร์ขายส่งส่วนใหญ่มักขายให้เฉพาะธุรกิจ ไม่ขายให้ผู้บริโภค คุณจะต้องมี
- บัญชีธนาคารธุรกิจ
- หมายเลขประจำตัวนายจ้าง (EIN)
จะใช้ซัพพลายเออร์ขายส่งสำหรับดรอปชิปได้หรือไม่
ได้ หลายซัพพลายเออร์ขายส่งมีบริการดรอปชิป พวกเขาจะคัด เลือก แพ็ก และจัดส่งสินค้าให้ลูกค้าของคุณโดยตรงจากคลังสินค้า